ขั้นตอนและข้อควรระวังในการเตรียมอาหารสายยางการเตรียมอาหารสำหรับให้ทางสายให้อาหาร (Tube Feeding Formula) เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ป่วยค่ะ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดคือ ความสะอาดและอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน
นี่คือขั้นตอนและข้อควรระวังในการเตรียมอาหารสายยาง:
🥣 การเตรียมอาหารสายยางสำหรับผู้ป่วย
1. 🚿 สุขอนามัยและความปลอดภัย (Hygiene and Safety)
ล้างมือ: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนเริ่มเตรียมอาหารทุกครั้ง
ทำความสะอาดอุปกรณ์: ล้างทำความสะอาดกระบอกให้อาหาร, ภาชนะสำหรับปั่นหรือผสม, และสายยางให้อาหาร (ถ้าเป็นสายยางที่ใช้ซ้ำได้) ให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำเปล่า แล้วผึ่งให้แห้งสนิท
ตรวจสอบอาหารสำเร็จรูป: ตรวจสอบ วันหมดอายุ และสภาพของภาชนะบรรจุ หากมีรอยบุบ รั่ว หรือสีผิดปกติ ห้ามใช้โดยเด็ดขาด
2. 🌡️ การปรับอุณหภูมิอาหาร (Temperature Control)
ห้ามให้ร้อนหรือเย็นเกินไป: อุณหภูมิอาหารที่เหมาะสมคือ อุณหภูมิห้อง (Room Temperature) หรืออุ่นเล็กน้อย หากอาหารเย็นเกินไปอาจทำให้ผู้ป่วยท้องอืดได้
การอุ่นอาหาร: หากอาหารถูกเก็บไว้ในตู้เย็น ให้นำออกมาวางทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้อุณหภูมิสูงขึ้น หรือนำภาชนะอาหารไปแช่ในน้ำอุ่น (อุ่นด้วยไอน้ำ) ห้าม อุ่นอาหารในไมโครเวฟโดยเด็ดขาด เพราะความร้อนที่ไม่สม่ำเสมออาจทำลายสารอาหารและทำให้เกิดการลวกในกระเพาะอาหารได้
3. 🍲 การเตรียมอาหารปั่น (Homemade Blended Formula)
หากใช้สูตรอาหารปั่นที่ปรุงเอง (ตามคำแนะนำของแพทย์/นักโภชนาการ):
ปั่นให้ละเอียด: ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อให้สามารถไหลผ่านสายยางได้สะดวกและไม่เกิดการอุดตัน
กรอง: ควรกรองอาหาร ด้วยผ้าขาวบางหรือตะแกรงละเอียด 1–2 ครั้ง ก่อนนำไปให้ผู้ป่วย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกากใยหรือส่วนผสมที่ไม่ละเอียดเหลืออยู่เลย
4. 📝 การแบ่งปริมาณและการเก็บรักษา (Portioning and Storage)
แบ่งปริมาณที่เหมาะสม: ควรเตรียมอาหารให้พอดีกับการใช้ ต่อ 1 มื้อ เท่านั้น หากจำเป็นต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง):
อาหารสำเร็จรูปที่เปิดแล้ว/อาหารปั่น: ควรเก็บใส่ภาชนะที่สะอาดและมีฝาปิดสนิท
จัดเก็บในตู้เย็น (อุณหภูมิไม่เกิน 4°C): ก่อนนำมาใช้ ต้องนำมาอุ่นให้ได้อุณหภูมิห้องก่อน
ห้ามทิ้งอาหารไว้ภายนอกนานเกินไป: อาหารสายยางที่เตรียมแล้ว ห้าม วางไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
ความสะอาดของสาย: ก่อนและหลังให้อาหาร ต้องฉีดน้ำสะอาดตามสายทุกครั้งเพื่อป้องกันการอุดตัน
การผสมยา: หากต้องการผสมยาลงในอาหาร ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ เพราะยาบางชนิดไม่สามารถบดหรือผสมกับอาหารได้
การเจือจาง: ห้ามเจือจางสูตรอาหารสำเร็จรูปด้วยน้ำเพิ่มเองโดยพลการ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากนักโภชนาการเท่านั้น