ดอกบัวในโถแก้ว: วิธีทำดอกไม้แห้ง ให้สวยเหมือนสดใหม่การทำดอกไม้แห้งให้สวยเหมือนสดใหม่และคงสีสันเดิมไว้ให้ได้มากที่สุดนั้นต้องอาศัยเทคนิคและปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่วางทิ้งไว้ให้แห้งเฉยๆ ค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ ดอกไม้มักจะหดตัว สีซีดจาง และกลีบเหี่ยวไม่สวยงาม แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยให้ได้ดอกไม้แห้งที่ดูสวยงามใกล้เคียงดอกสดมากที่สุด
ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อคุณภาพของดอกไม้แห้ง:
เลือกดอกไม้ที่เหมาะสม:
ดอกไม้ที่ยังสดใหม่: ควรเป็นดอกไม้ที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ ไม่มีรอยช้ำ ไม่มีโรคหรือแมลงกัดกิน และยังไม่เหี่ยว
ชนิดดอกไม้: ดอกไม้บางชนิดเหมาะกับการทำดอกไม้แห้งมากกว่าชนิดอื่น เช่น กุหลาบ, ไฮเดรนเยีย, แคสเปีย, ยิปโซ, สแตติส, ลาเวนเดอร์, คัตเตอร์ ส่วนดอกไม้ที่มีเนื้อเยื่อฉ่ำน้ำมากๆ อาจจะทำได้ยากและไม่สวยเท่า
ช่วงเวลา: ควรเก็บดอกไม้ในช่วงที่ดอกกำลังบานเต็มที่หรือบานแย้มเล็กน้อยก่อนที่กลีบจะเริ่มโรย
การเตรียมดอกไม้:
ตัดก้าน: ตัดก้านดอกไม้ให้มีความยาวตามที่ต้องการ หรือตัดเฉพาะดอกโดยเหลือโคนก้านสั้นๆ
เด็ดใบล่างๆ ออก: เพื่อลดการคายน้ำและทำให้การอบแห้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการทำดอกไม้แห้งให้สวยเหมือนสดใหม่
มีหลายวิธีที่ช่วยรักษารูปทรงและสีสันของดอกไม้ได้ดี ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับชนิดดอกไม้และอุปกรณ์ที่คุณมี:
1. วิธีอบแห้งด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel)
วิธีนี้เป็นที่นิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษารูปทรงและสีสันของดอกไม้ไว้ได้มากที่สุด
อุปกรณ์:
ทรายซิลิกา (Silica Gel): เลือกแบบเม็ดละเอียด จะสามารถแทรกซึมไปตามซอกกลีบดอกได้ดีกว่า (หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์งานฝีมือ หรือร้านค้าออนไลน์)
กล่องพลาสติกแบบมีฝาปิดสนิท หรือภาชนะที่ปิดได้สนิท
ดอกไม้สด
แปรงเล็กๆ หรือพู่กันนุ่มๆ
ขั้นตอน:
เททรายซิลิกาบางๆ รองก้นกล่องประมาณ 1-2 นิ้ว
วางดอกไม้สดลงบนทรายซิลิกา โดยเว้นระยะห่างเล็กน้อยไม่ให้ดอกไม้ชนกัน (หากเป็นดอกไม้ที่มีก้าน ให้เสียบก้านลงไปในทราย)
ค่อยๆ เททรายซิลิกาลงบนดอกไม้ โดยพยายามให้ทรายแทรกซึมเข้าไปในซอกกลีบและกลบดอกไม้ให้มิดทั้งดอกอย่างเบามือ
ปิดฝากล่องให้สนิท วางไว้ในที่แห้ง ไม่โดนแสงแดด
ระยะเวลา: ทิ้งไว้ประมาณ 3-7 วัน ถึง 2-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และความหนาของกลีบ (ดอกที่เนื้อแน่นจะใช้เวลานานกว่า)
การตรวจสอบ: เมื่อครบกำหนด ลองใช้ไม้จิ้มฟันหรือคีมเขี่ยทรายออกเบาๆ หากดอกไม้แห้งกรอบและคงรูป ให้ค่อยๆ เททรายออก
ทำความสะอาด: ใช้แปรงเล็กๆ ปัดทรายซิลิกาที่ติดอยู่ตามกลีบดอกออกให้หมดอย่างเบามือ
2. วิธีอบแห้งด้วยไมโครเวฟร่วมกับสารดูดความชื้น
วิธีนี้ช่วยร่นระยะเวลาได้มาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดอกไม้แห้งแบบเร่งด่วน
อุปกรณ์:
ทรายซิลิกา
ภาชนะสำหรับเข้าไมโครเวฟได้
ดอกไม้สด (อาจตัดก้านให้สั้นลงเหลือประมาณ 1-2 นิ้ว)
กระดาษทิชชู
ขั้นตอน:
วางกระดาษทิชชูรองก้นภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้
เททรายซิลิกาบางๆ ลงไป แล้ววางดอกไม้ลงไป
กลบดอกไม้ด้วยทรายซิลิกาให้มิด
นำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟต่ำ-ปานกลาง (เช่น 500-600 วัตต์) ประมาณ 1-3 นาที (ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และความแรงของไมโครเวฟ ต้องคอยดูและปรับเวลา)
นำออกมาพักในภาชนะที่ปิดสนิท (โดยยังคงมีทรายซิลิกาอยู่) ประมาณ 15-30 นาที หรืออาจจะทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้ความชื้นระเหยออกไปหมด
นำออกมาปัดทรายซิลิกาออกอย่างเบามือ
3. วิธีอบแห้งแบบแขวนกลับหัว (Air Drying)
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมากนัก แต่ดอกไม้อาจจะหดตัวหรือสีซีดจางไปบ้าง
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
เชือกหรือยางรัด
ไม้แขวนเสื้อ หรือราวตากผ้า
ขั้นตอน:
รวมดอกไม้เป็นช่อเล็กๆ ประมาณ 3-5 ดอก โดยเด็ดใบล่างๆ ออกให้หมด
ใช้เชือกหรือยางรัดที่ปลายก้านให้แน่น
นำช่อดอกไม้ไปแขวนกลับหัวในที่ อากาศถ่ายเทสะดวก แห้งสนิท ไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง (เช่น ห้องเก็บของ ห้องใต้หลังคา หรือมุมห้องที่โปร่ง) แสงแดดจะทำให้สีซีดจางลง
ระยะเวลา: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิทและแข็งกรอบ
เมื่อแห้งแล้ว ดอกไม้อาจมีสีเข้มขึ้นหรือซีดจางลงเล็กน้อย
4. วิธีอบแห้งโดยใช้หนังสือทับ (Pressing Flowers)
เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีกลีบแบนๆ เช่น แพนซี่, ไวโอเล็ต, เดซี่ หรือกลีบดอกกุหลาบ
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
หนังสือเล่มหนาๆ และหนักๆ
กระดาษไข หรือกระดาษซับมัน
ขั้นตอน:
วางกระดาษไขรองลงไปในหน้ากลางของหนังสือ
วางดอกไม้ลงบนกระดาษไข โดยจัดเรียงกลีบให้สวยงามและไม่ทับซ้อนกัน
วางกระดาษไขอีกแผ่นทับดอกไม้ แล้วปิดหนังสือให้สนิท
วางของหนักทับบนหนังสืออีกที เช่น ก้อนอิฐ หรือหนังสือเล่มอื่น
ระยะเวลา: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าดอกไม้จะแห้งและแบนสนิท
เมื่อแห้งแล้ว ดอกไม้จะแบนและมีสีที่เข้มขึ้น นิยมนำไปทำเป็นการ์ด หรือตกแต่งงานฝีมือ
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อคงความสวยงาม
เลือกดอกไม้ที่เหมาะสม: ดอกไม้ที่มีกลีบแน่นและมีปริมาณน้ำไม่มากนัก มักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
อบแห้งทันที: ยิ่งอบแห้งเร็วเท่าไหร่ หลังดอกไม้ถูกตัดมา จะยิ่งช่วยรักษาความสดและสีสันไว้ได้ดีเท่านั้น
หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น: แสงแดดจะทำให้สีซีดจางลง ส่วนความชื้นจะทำให้ดอกไม้ขึ้นรา
การเก็บรักษา: เมื่อดอกไม้แห้งสนิทแล้ว ควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท ปราศจากความชื้น และไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพื่อรักษาสภาพและสีสันให้อยู่ได้นานที่สุด อาจฉีดสเปรย์เคลือบดอกไม้แห้ง (Floral Preserve Spray) เพื่อช่วยปกป้องและรักษาสภาพ
การทำดอกไม้แห้งให้สวยเหมือนสดใหม่ต้องอาศัยความพิถีพิถันและอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าแน่นอนค่ะ!