แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7
31
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.
คุณประโยชน์
: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


32
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


33
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



34
โตโยต้า “โคโรลล่า ครอส ใหม่”  เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ลาน Eden ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นับเป็นการเปิดแบบเวิล์ด พรีเมียร์ ครั้งแรกในโลกสำหรับโฉมหน้าตาดีไซน์นี้ ด้วยไฮไลท์ใหม่ ที่โดดเด่นอย่าง  กระจังหน้าแบบ “Multi-Dimensional Design” ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential   เหนือระดับ ด้วยหลังคา Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอิสระ ทั้งยังมาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่องต่อ USB แบบ type C โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake, ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Tire Pressure Monitoring System, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° View, สัญญาณเตือนกะระยะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ รวมทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold  ทำให้ โคโรลล่า ครอส ใหม่ นอกจากสวยทันสมัยยิ่งขึ้นแล้วยังคุ้มค่ามากขึ้นด้วยราคาที่เท่ากับรุ่นก่อนปรับโฉมในทุกรุ่นย่อย และเราก็ได้โอกาสลองขับครั้งแรกพร้อมกับลองการทำงานของระบบเซฟตี้ใหม่ๆ ในลานทดสอบบริเวณหน้าศูนย์การค้าฯ


การขับทดสอบ “โคโรลล่า ครอส ใหม่” ครั้งแรกแม้เป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็พอสรุป 5 ข้อสังเกตุในการลองของจริงเทียบกับรุ่นก่อนได้ดังนี้
 
1. ฟิลลิ่งการขับเหมือนเดิมอยู่แล้ว แต่การเติมเต็มออปชันมากขึ้น ทำให้ตื่นตัวกับการขับในที่แคบเพราะสัญญานเตือนกะระยะทำงานตลอด
2. ตำแหน่งหน้าจอสัมผัสใหม่ขนาด 10.1 นิ้ว ให้ความชัดเจนและมองง่ายกว่าเดิม
3. เมื่อต้องปลดล็อคพาร์คกิ้งเบรกใหม่แบบไฟฟ้าที่ปุ่ม จากเดิมที่เป็นกลไกแบบเหยียบ ตอบสนองช้ากว่าและถ้าวางแก้วน้ำตรงช่องกลางก็อาจติดขัดในการกด แต่ก็ดูดีขึ้น
4. ประทับใจกับการทำงานของระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake ไม่ว่าเดินหน้าและถอยหลัง จากที่ได้ปล่อยคันเร่งให้รถไหลเอง ตรงนี้จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้มาก
5. การขับผ่านที่แคบง่ายขึ้นด้วยตัวช่วยใหม่อย่าง กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° view ที่ทำงานร่วมกับสัญญานเตือน
 
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากรุ่นโฉมก่อนหน้าในทุกรุ่นย่อย
 
ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp
ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential
หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
USB type C
สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านหน้า และด้านหลัง
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH



tokyo motor show: First Drive Corolla Cross 2024 หน้าใหม่ เซฟตี้เพิ่ม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/tokyomotorshow/

35
นี่คือ ทริปทดสอบมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่! และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! รถยนต์มิตซูบิชิ อเนกประสงค์ที่มากับระบบขับเคลื่อน ฟูลไฮบริด ใหม่! แบบลงถนนจริงเส้นทางกรุงเทพฯ - บางแสน เสมือนขับท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ด้วยความเป็นรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กรุ่นแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมกับระบบฟูลไฮบริด แต่ครั้งนี้เรานั่งกันไปเพียง 3 คน รวมผู้เขียนตัวแทนจากทางเพจ คาร์กูรูไทยแลนด์ ซึ่งเส้นทางไป-กลับจะแบ่งสลับขับ นอกจากตำแหน่งผู้ขับแล้วก็ลองนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าและแถวสอง ซึ่งเพียงพอที่จะสรุปมุมมองที่น่าใช้ของรถรุ่นนี้

ผู้เขียนได้ขับรุ่น เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! เส้นทางกทม.-บางแสน โดยช่วงแรกนั่งในตำแหน่งเบาะแถวสอง และสลับมาขับในช่วงขับกลับ ด้วยระยะทาง เกือบ 150 กม. พอสรุปได้ว่า เป็นรถเอ็มพีวีที่ขับง่าย ออกตัวและเร่งแซงดีกับขุมพลังใหม่ Mivec 1.6 ลิตร เบนซิน ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ ตอบสนองดีทุกจังหวะ ใช้ความคุ้นชินสักพักกับเบรกรุ่นนี้เป็นดิสก์ 4 ล้อเพราะมีพาร์คกิ้งเบรกไฟฟ้า แต่รู้สึกต้องออกแรงกดมากหน่อย ช่วงล่างกำลังดีสำหรับฟิวนั่งที่เบาะแถวหน้า แต่แถวสองรู้สึกอาการเด้งพอควร อาจเป็นเพราะมีโหลดน้อย ภายในห้องโดยสารโปร่งกว้าง แอร์เย็นเพดานที่บนที่นั่งแถวสองปรับแรงลมได้ และเย็นจัดทั่วถึง การขับส่วนใหญ่เป็นถนนเปิดโล่งอย่างมอเตอร์เวย์ แต่ถึงกระนั้นถนนเมืองไทยก็เต็มไปด้วยรถขับช้าในทุกช่องเลน ทำให้ต้องเปลี่ยนเลนไปมาบ่อยครั้งระหว่างทำความเร็ว ซึ่งน้ำหนักและความคมของพวงมาลัยเน้นขับสบายจึงมีจังหวะดีเลย์บ้าง แต่ที่น่าตกใจคือ อัตราสิ้นเปลืองตามที่เคลมจาก อีโค่สติ๊กเกอร์ 19 กม./ล. ขับจริงแบบใช้งานเดินทางปกติได้ 13.5 กม./ล. สอบถามหลายคันในทริปก็ได้ตัวเลขประมาณนี้เหมือนกัน ด้วยน้ำหนักตัวรถขนาด 2 ตันนิด จากน้ำหนักของมอเตอร์และแบตเตอรี่บวกกับการเป็นเอ็มพีวี 7 ที่นั่งอาจมีผลอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามก็อาจโดนนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาในคลาสนี้ซึ่งอาจไม่เห็นความต่างด้านความประหยัดอย่างที่หลายคนคาดหวังได้ นอกจากนี้ระบบเซฟตี้และช่วยเหลือการขับก็ดูน้อยไปเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในตลาดที่ให้ครอบคลุมมากกว่า โดยรวมเป็นทริปวันเดย์ที่เน้นการขับจริงจัง ด้วยรูปลักษณ์ ความอเนกประสงค์ ความทันสมัย ยอมรับว่า เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี น่าใช้ไม่น้อย เพราะเอ็มพีวีขนาด 7 ที่นั่ง ขุมพลัง 1.6 ลิตร เบนซินกับฟูลไฮบริดในราคาต่ำล้านบาทนับเป็นความโดดเด่นอยู่แล้ว

แต่พิเศษที่ไม่เหมือนใครคือ Mitsubishi e:MOTION ประสบการณ์ขับขี่ใหม่ ที่ได้ผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์ของ 3 สุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส  ได้แก่

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ความคล่องตัว ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs)
โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ ได้ตามต้องการ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน

ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบการขับขี่ที่ปลอดภัยและมั่นใจ ควบคุมรถได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง


การมี 7 โหมดขับขี่ เหมือนมีลูกเล่นมากขึ้นคล้ายกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่นี่เป็น MPV ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าทั่วไป แต่การขับในทริปนี้ลอง normal กับ tarmac โหมด เพราะขับบนถนนหลวงเป็นหลัก ซึ่งก็เพียงพอ นอกจากนี้ก็ยังมี AYC ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้งโดยระบบจะควบคุมการทำงานของล้อด้านในโค้งกับล้อด้านนอกโค้งให้หมุนสัมพันธ์กัน ซึ่งก็ไม่มีรุ่นไหนเหมือน แต่การขับแบบธรรมดาเข้าโค้งในระดับความเร็วที่เหมาะสมบนถนนคอนกรีตแห้งกฌไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบนี้

ด้วยราคา 961,000 บาท ในรุ่น เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ได้รถอเนกประสงค์แบบครอบครัวในราคาต่ำล้าน ดีไซน์สวยทันสมัย พื้นที่กว้างขวาง เทคโนโลยีขับเคลื่อนไฮบริดใหม่  พร้อมระบบเฉพาะตัวอย่าง AYC และโหมดขับขี่ที่หลากหลาย ก็สามารถชดเชยบางสิ่งที่ขาดไปได้

ราคา มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่! 933,000 บาท
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! 961,000 บาท
ข้อเสนอพิเศษ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ตร้า แคร์ 
การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
แพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี
ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็คระยะตลอด 5 ปี
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี
พร้อมกับประกันภัยชั้น 1 ฟรีหนึ่งปี
เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด บริษัทฯ จึงขยายการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฮบริด ยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
ขยายการรับประกันพิเศษสำหรับแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริดในปีที่ 6-10 โดยไม่จำกัดระยะทาง

*เอ็กซ์แพนเดอร์ ขุมพลัง 1.6 ไมเวค ไฮบริด ทั้งรุ่นธรรมดาและครอส เปิดไลน์ผลิตในประเทศไทย ไม่เหมือนรุ่นเครื่องยนต์สันดาปที่ผลิตอินโดนีเซีย

motor show: Test on road มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ขุมพลังฟูลไฮบริดใหม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorshow/

36
สงกรานต์นี้พร้อมเดินทางแล้วหรือยัง?

ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว คงเป็นช่วงที่ใครหลายคนเฝ้ารอ จองสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนชาร์ตพลังกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นขึ้นเขา ลงทะเล คาเฟ่น่ารัก ๆ นั่งถ่ายภาพพร้อมขนมและเครื่องดื่มสักแก้ว หรือแม้แต่การกลับไปหาครอบครัวหรือไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่ต่างจังหวัด ถือเป็นช่วงเวลาคุณภาพสุดพิเศษประจำปี ดังนั้นเราเลยอยากเสนอเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การเดินทางทั้งใกล้และไกลในช่วงสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนมีความสนุกในช่วงเวลาสงกรานต์นี้


เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกเดินทางก็ถือเป็นจุดที่สำคัญมาก เพราะถ้าหากไม่เตรียมการให้ดีอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียเวลามากกว่าเดิมแน่ ๆ แล้วแบบนี้ต้องเตรียมตัวยังไงให้พร้อมก่อนออกเดินทางดี

1. วางแผนการเดินทางให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเส้นทางที่จะไป และเลือกช่วงเวลาการเดินทางให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขับรถ เพราะถ้าเลือกเวลาช่วงหลังเที่ยงคืน รถอาจจะไม่เยอะ แต่คนขับอาจจะง่วงและไม่พร้อมขับรถได้ รวมถึงคาดคะเนจุดแวะหยุดพักระหว่างทางด้วย

2. คนขับต้องนอนให้เต็มที่ ป้องกันอาการง่วงระหว่างขับรถ โดยการนอนพักผ่อนอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง สำหรับวันก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการหลับใน

3. ตรวจสอบสภาพของรถ คนขับพร้อมแล้วรถพร้อมหรือยัง? อย่าลืมตรวจสอบสภาพของรถให้เหมาะสมก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่เสียเวลาจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง

4. จิบกาแฟสักแก้วก่อนเดินทางสัก 30 นาที ช่วยให้ตื่นตัวพร้อมเดินทาง แนะนำให้เลือกเป็นกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม โดยอาจเลือกเป็นกาแฟดำกระป๋อง หรือกาแฟเข้ม ๆ ผสมนมสดได้เช่นกัน

เพียงเท่านี้เราก็เตรียมพร้อมกับการออกไปเที่ยวในช่วงสงกรานต์แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ในช่วงก่อนขับรถก็จะยังสดชื่นพร้อมออกเดินทาง แต่เมื่อขับรถไปสัก 1 – 2 ชั่วโมง แล้วก็มักจะเริ่มรู้สึกอ่อนล้าและงัวเงียขึ้นมา ควรทำยังไงดี? เรามีคำแนะนำมาฝากกัน


5 เทคนิคเล็ก ๆ คลายง่วง ปลอดภัยขณะเดินทาง

1. จิบกาแฟอีกสักหน่อย เติมพลังระหว่างขับรถ

หลังจากขับรถไปสักพักแล้วยังไม่ถึงที่หมายก็สามารถจิบกาแฟเพิ่มไปได้อีกนะ แต่อย่าลืมว่าในหนึ่งวันไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 300 มิลลิกรัม โดยกาแฟดำ 1 แก้วมีคาเฟอีน 80 มิลลิกรัม กาแฟสด 1 แก้วมี 100 มิลลิกรัม และกาแฟกระป๋อง 1 กระป๋องมี 150 – 160 มิลลิกรัม ดังนั้นอาจจิบกาแฟดำหรือกาแฟในแบบที่ตัวเองชื่นชอบเพิ่มสักแก้วน่าจะดี อีกทั้งกลิ่นอโรมาหอม ๆ ของกาแฟยังช่วยให้รู้สึกตื่นตัวในระหว่างขับรถได้อีกด้วย


2. ดื่มน้ำเปล่าเติมความสดชื่น

น้ำเปล่าก็เป็นอีกทางเลือกทสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ หรือคนที่ต้องขับรถนาน ๆ แต่ดื่มกาแฟจนหมดแล้ว เลือกน้ำเปล่าที่ใสสะอาด ไม่มีสีหรือกลิ่น ช่วยเพิ่มความสดชื่น รักษาสมดุลน้ำในร่างกาย พร้อมช่วยลดอาการอ่อนเพลีย เพราะอาการง่วงที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมติดน้ำเปล่าเย็น ๆ สักขวด ไว้จิบระหว่างขับรถเติมความสดชื่น หรืออาจจะเลือกเครื่องดื่มที่มีรสชาติเปรี้ยว เช่น น้ำผลไม้สด หรือ ชาผลไม้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างขับรถ


3. งีบสักหน่อยได้มีแรงขับรถ

ถ้าต้องขับรถนาน ๆ แล้วง่วงมาก ๆ การได้งีบสักหน่อยก็จะช่วยให้สมองตื่นตัวมากขึ้น โดยการงีบ 10 – 15 นาที จะช่วยให้สมองตื่นตัวมากขึ้น และสามารถเลือกดื่มกาแฟก่อนหรือหลังจากการงีบได้ ในบางคนอาจได้ผลเมื่อดื่มกาแฟก่อนงีบ หรือที่เรียกว่า coffee nap เพราะคาเฟอีนจะเข้ามาช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวได้มากขึ้นหลังจากตื่นนอน
แวะยืดเส้นยืดสายสักนิด


4. แวะยืดเส้นยืดสายสักนิด

ปัจจุบันปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่จะเป็นจุดพักรถที่มีร้านอาหารหรือร้านขนมไว้ให้บริการ รวมไปถึงพื้นที่นั่งพักสบาย ๆ ให้คนที่กำลังเดินทาง สามารถลงมาเดินยืดเส้นยืดสาย คลายความปวดเมื่อย และพักสายตา ให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น โดยสามารถใช้ท่ายืดเหยียดช่วยคลายความเมื่อยล้า เช่น

    ท่ายืดไหล่ โดยยกข้างหนึ่งไปทางด้านข้างทำมุม 45 องศา แล้วใช้แขนอีกข้างพับแขนขึ้นมาหาตัว ดึงแขนให้ตึงที่สุดเพื่อยืดเส้นบริเวณหัวไหล่ แล้วหันหน้าไปฝั่งตรงกันข้ามแขน ค้างไว้ประมาณ 10 – 20 วินาที
    ท่ายืดกล้ามเนื้อคอ โดยยกแขนขวาแล้วโอบไปจับที่หูข้างซ้าย แล้วค่อยๆเอียงคอไปทางขวาจนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อคอตึง แล้วค้างไว้ประมาณ 10 – 15 วินาที จากนั้นเปลี่ยนสลับข้างอีก 5 – 10 ครั้ง


5. อย่ากินให้อิ่มมากเกินไป

อย่างที่เรารู้กันว่าถ้าหนังท้องตึงหนังตาหย่อน เพราะเมื่อเรากินอาหารอิ่มมากเกินไป ร่างกายจะได้รับน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการหลั่งอินซูลินพร้อมกับ เซโรโทนิน และ เมลาโทนิน ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน ดังนั้นอาจจะเลือกกินอาหารให้อิ่มกำลังดี แล้วอาจพกอาหารว่างที่หยิบกินสะดวกไว้แก้หิวระหว่างเดินทางแทน เช่น แซนวิชทูน่า ช็อกโกแลตแท่งหวานน้อย นมรสจืด หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม เป็นต้น



5 วิธีแก้ง่วงเวลาขับรถ พร้อมเดินทางปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

37
เมื่อเราเรียนหรือว่าทำงานอยู่นั้น อุปสรรคที่คิดว่าทุกคนจะต้องเจอกันมาบ้าง คือ "ความง่วง"  เวลาเรียนหรือคิดงานอยู่ ถ้าจู่ๆ เกิดง่วงขึ้นมานี่ หมดอารมณ์กันเลยทีเดียว วันนี้จะมาแนะนำวิธีแก้ง่วงระหว่างวัน มาฝากทุกท่านกัน ตามเรามาค่ะ


1. ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย
       
หากเริ่มรู้สึกง่วง ลองลุกจากโต๊ะ เดินไปรอบๆ บิดขี้เกียจ ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย อาจจะไปคุยกับเพื่อน หรือเข้าห้องน้ำ อะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ให้ได้ขยับตัวสักหน่อย เพื่อเป็นการกระตุ้นร่างกาย ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ แล้วง่วงต่อคงไม่ได้งานแน่ๆ แต่อย่าลุกไปนานจนเจ้านายมองค้อนเอาล่ะ ลุกขึ้นทุกๆ 2-3 ชั่วโมง แล้วใช้เวลายืดเส้นยืดสาย 2-3 นาที ก็เพียงพอแล้วล่ะ


2. ฟังเพลงจังหวะมันส์ๆ
       
ถ้าเราเกิดง่วงขึ้นมาแล้วนั่งทำงานนิ่งๆ เฉยๆ ต่อไปแบบนั้น มีแต่จะทรมานเปล่า หาหูฟังใส่สบายสักอัน พร้อมกับเพลงที่จังหวะมันส์ๆ คึกคัก หรือเพลงโปรด มาฟังก็ช่วยได้มากเลยนะ เพราะคลื่นความถี่จะเข้าไปกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราให้ตื่นตัวมากขึ้น ไล่ความง่วงได้ดีเลยล่ะ แต่ถ้าใครทำงาน หรืออ่านหนังสือแบบที่ต้องการสมาธิสูงๆ อาจจะเลือกฟังเพลงเป็นช่วงๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวเป็นพักๆ ก็ได้นะ


3. ดื่มน้ำเยอะๆ
       
น้ำ มีบทบาทสำคัญกับชีวิตของเรามากจริงๆ ในที่นี้การได้ดื่มน้ำเยอะๆ สามารถช่วยให้หายง่วงได้นะ เพราะน้ำช่วยให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ร่างกายเรามีน้ำกว่า 70% หากเกิดอาการขาดน้ำขึ้นมา ย่อมส่งผลให้อ่อนเพลียขึ้นได้เช่นกัน ใครง่วงหนักจะจัดชา กาแฟ ก็ไม่ขัดศรัทธา แต่อย่าดื่มบ่อยจะดีกว่า


4. ทานผลไม้เปรี้ยวๆ หวานๆ ก็ไม่เลวนะ
       
ผลไม้เปรี้ยวๆ หวานๆ อย่างส้ม สับปะรด มะม่วง มะยมอะไรพวกนี้ น่าจะหาซื้อได้ไม่ยาก เห็นมีขายอยู่แทบทุกที่ ถ้าเกิดง่วงขึ้นมาล่ะก็ ลองลงไปซื้อมากินดูได้นะ ช่วยให้หายง่วงได้ดีเลยล่ะ ทั้งสดชื่น ตาสว่าง แถมความอร่อยเข้าไปด้วย เท่านี้ก็พร้อมลุยงานต่อกันเลย


5. งีบหลับสักนิด
       
ถ้าง่วงทำไงดี? ก็หลับสิ  อาจจะฟังดูกวนๆ แต่มันคือเรื่องจริง ในที่นี้เราขอใช้คำว่า “ งีบหลับ ” มีงานวิจัยออกมาว่า การที่ได้งีบหลับสัก 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนสักนิด พอตื่นขึ้นมา คุณจะรู้สึกสดชื่นและสมองปลอดโปร่งมากเลยล่ะ หากอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากนั่งเรียนอยู่ในห้อง นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ข้อนี้อาจจะต้องข้ามไปนะจ๊ะ

   
อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุของความง่วงมักมาจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นหากจะแก้ที่ต้นเหตุ ก็ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ นอนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และจะดีมากหากคุณสามารถตื่นมาออกกำลังกาย และทานอาหารแต่เช้าได้ รับรองว่าคุณจะสดชื่นแจ่มใสไปตลอดทั้งวันแน่นอนค่ะ


แนะนำวิธีแก้ง่วงระหว่างวัน ฉบับวัยเรียน-วัยทำงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

38
รถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช และ รถรับจ้างขนของ โซนภาคใต้ ขณะนี้เราต้องขออัพเดทสถานการณ์ น้ำท่วม ในปัจจุบัน บอกเลยว่าในช่วงในเวลาที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงมากในเขตภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและท่วมสูงรวมถึงถนนถูกตัดขาดหลายเส้นทำให้เราไม่สามารถที่จะให้บริการรถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเราเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการเดินรถไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างนครศรีธรรมราช รถหกล้อรับจ้างนครศรีธรรมราช ทั้งแบบคอกสูงและแบบตู้ทึบ รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช รถเทเลอร์รับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช และ รถเฮี้ยบรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงรถรับจ้างที่อยู่ในทีมงานของเราทุกคันไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ รับจ้างขนของทั่วไป ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายวัสดุก่อสร้างขนย้าย เครื่องจักร ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในช่วงภัยน้ำท่วมเราได้มีการเดิน บริการรถรับจ้างขนของ ในบางเขตอำเภอในบางเส้นทางเท่านั้นเนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะ ผ่าน้ำท่วมในบางจุดได้ ตั้งแต่จังหวัด สงขลา นครศรีธรรมราช รวมไปจนถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราเป็นห่วงทั้งในเรื่องของสินค้าของท่าน และ พนักงานขับรถ แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นมา ต้องขออัพเดทเลยว่าปัจจุบันนี้วันนี้ ทางเราสามารถที่จะกลับมาเดิน รถรับจ้างขนของ ได้ครบทุกเส้นทางแล้วสำหรับลูกค้าท่านไหนที่ต้องการจะขนย้ายของ ท่านสามารถโทรเข้ามาสอบถามที่เราได้เลยเพราะบางจุดอาจจะยังไม่ 100% แต่ทางทีมงาน รถรับจ้าง ของเราก็จะใช้เส้นทางที่เลี่ยงจากถนนที่เกิดการชำรุด เพื่อเข้าไปรับสินค้าของท่าน ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องกังวลว่าสินค้าของท่านจะเสียหายแต่หรือไม่เพราะว่าพนักงานขับรถของเราทุกคนมีความชำนาญในเส้นทางจากประสบการณ์การทำงานมาไม่ต่ำกว่า 15 ปี จึงทำให้เรารู้ว่าไม่ว่างานนั้นจะยุ่งยากหรือน้ำท่วมสูงขนาดไหน เราก็สามารถที่จะให้บริการท่านในเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่เส้นทางปกติเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายสินค้าของท่านได้อย่างแน่นอน


สำหรับท่านที่ต้องการขนย้ายบ้าน หรือต้องการเคลื่อนย้ายของ สินค้าอินเองที่ เสียหายจากน้ำท่วมหรือต้องการที่จะ ย้ายบ้าน ข้ามจังหวัดก็สามารถโทรเข้ามาตรวจเช็คราคากับเราได้หากท่านต้องการพนักงานยกสินค้าเราก็มีพนักงานพร้อมให้บริการท่านเช่นกัน เราไม่อยากให้ท่านต้องมายุ่งเองเพราะการที่เราไม่เคยทำงานหรือไม่เคยยกสินค้าหนักๆ เป็นระยะเวลานานหากการยกนั้นทำให้ท่านต้องเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหรือทำให้ท่านต้อง ปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก เราพูดได้เลยว่าไม่คุ้มแน่นอน ท่านควรที่จะใช้พนักงานที่เค้าให้บริการการยกสินค้าจะดีกว่า ระยะเวลา ให้บริการท่านแทน น่าจะดีที่สุดเพราะว่างานเหล่านี้คนงานยกสินค้าของเราทุกคนมีความชำนาญมากดังนั้นสินค้าของท่านไม่ต้องกังวลว่าจะแตกเสียหาย ใช้บริการเราจะดีที่สุด ท่านสามารถแจ้งเข้ามาได้เลยว่าจะใช้พนักงานกี่คนขนย้ายอะไรบ้างเพียงเท่านี้ท่านก็ไม่ต้องมาเครียดกับการต้องหาคนช่วยอีกต่อไป โทรเลย


หากท่านต้องการที่จะมาท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามมาแนะนำทาง อีกมากมาย เช่น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร น้ำตกกรุงชิง หมู่บ้านคีรีวง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ช่องรูเล็ด หาดหินงาม หาดในเพลา หาดทรายแก้ว แหลมตะลุมพุก เป็นต้น รถรับจ้าง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ท่านสามารถที่จะเดินทางมาเที่ยวได้อย่างชิวๆหรอืจะดู แผนที่ของ ททท. หรือไม่ก็โทรมาสอบถามที่หน่วยบริการ รถรับจ้าง ของเราเพราะเราจะมีทีมงานที่ไว้คอยให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงบางครั้งท่านไม่จำเป็นต้องมา ติดต่อธุระเราเฉพาะเรื่อง รับจ้างขนของ เท่านั้นท่านอาจจะโทรเข้ามาสอบถามในเรื่องของ สถานที่ท่องเที่ยวว่า สถานที่ไหนที่เรา ควรจะแนะนำ หรือท่านต้องการให้เราแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไหนที่น่าไป เราก็ยินดีให้บริการท่านอยู่แล้ว เพราะเราอยาก ให้ท่านมาที่จังหวัดนครราชสีธรรมราชอย่าง สนุก ประหยัด สบายใจ

แต่หากท่านต้องการบริการ รถรับจ้างขนของนครศรีธรรมราช เราก็ยินดีเพราะว่าบางครั้งที่เราสังเกตุเห็นคือลูกค้าบางท่านเดินทางมาทาง รถทัวร์ บขส หรือทางเครื่องบินจะต้องมาหารถที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกทีหนึ่ง แต่บางครั้งท่านเตรียมกระเป๋ามาในปริมาณที่มาก ก็ต้องการที่จะหารถสักคันไว้ใช้บริการขนของกระเป๋าไปที่โรงแรมไปที่สถานที่พัก แน่นอนว่า ท่าน มีความจำเป็นมากที่จะต้องใช้บริการ รถรับจ้าง ของเรา อาจจะเป็นใช้ รถกระบะรับจ้าง ในการขนย้ายของ แต่ถ้าหากเป็นงานที่เกี่ยวกับ งานขนย้ายบ้าน แน่นอนจะต้องเป็น รถ 6 ล้อรับจ้าง ขนของจากแน่นอนเพราะมีปริมาณที่เยอะและอาจจะต้องใช้พนักงานขนย้ายของเราอีกต่างหาก เราก็พร้อมให้บริการท่านอยู่แล้วที่สำคัญ อย่าลืมนะคะ หากต้องการใช้บริการ รับจ้างขนของ โทรมาสอบถามราคากับเราได้เลย

 

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่: บริการรถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราชขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ รับจ้างขนของทั่วไป อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กทที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

39
วันนี้เราจะขอรวบรวมรีวิวของผู้ใช้ บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดชลบุรี มาให้กับผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนส่งสินค้าทั่วไป ย้ายสำนักงาน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งย้ายเครื่องจักรอื่นๆซึ่งในการรวบรวมครั้งนี้เราจะรวบรวมมีส่วนที่ ผู้ที่เข้าไปใช้บริการ รถรับจ้าง แล้วเกิดความประทับใจ ซึ่งแม้แต่ละงานก็จะเป็นงานที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีการใช้บริการรถที่ต่างขนาดต่างไซส์กันออกไป ซึ่งเราอยากให้ผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะขนย้ายของ

และเข้ามาอ่านอย่างน้อยก็จะเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนที่ท่านจะตัดสินใจเลือกใช้ บริการรถรับจ้างในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี จะได้มีข้อมูลในการต่อรองราคาหรือแม้กระทั่งข้อมูลในการจัดเรียง สินค้าให้ได้พื้นที่ที่ พอเหมาะ ในการขนย้ายในแต่ละครั้ง เริ่มต้นด้วย

1. บริการรถกระบะรับจ้างชลบุรี ซึ่งๆรีวิวจากคุณเอก เป็นงานขนย้ายหอพัก จากบางแสน ขนย้ายมาที่กรุงเทพฯเขตห้วยขวาง ซึ่งลูกค้าได้ใช้บริการ รถกระบะรับจ้างขนย้ายของในเขตมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นการย้ายหอหรือทั่วไปสินค้าที่มีได้แก่ เครื่องซักผ้ามอเตอร์ไซค์ กล่องหนังสือทีวีตู้เย็น และของใช้อื่นๆอีกนิดหน่อย จึงได้ตัดสินใจใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ก็เพียงพอ โดยได้เรียกใช้บริการขนส่ง ผลปรากฏว่า การบริการดีมีพนักงานยกของให้ฟรีพูดจาสุภาพ และราคาถือว่าไม่แพง คุณเอกบอกว่า ในช่วงที่จะเข้าไปในกรุงเทพ รถติดมากจึงจำเป็นต้องใช้ทางด่วน แต่ผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของไม่คิดค่าทางด่วนเลย ถือว่าเป็นการให้บริการที่ดีเยี่ยมพอสมควร

2. รถ6ล้อรับจ้างชลบุรี ซึ่งเป็นการรีวิวจากคุณจอย ซึ่งคุณจอยได้ใช้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้างพัทยา โดยเป็นการขนย้ายบ้านไปยังจังหวัดเชียงใหม่ สินค้าที่ทำการขนย้ายซึ่งมีได้แก่ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 2 ใบ ทีวี 2 เครื่องมอเตอร์ไซค์ 1 คันที่นอน 2 ชุด ตู้เย็น ชุดเครื่องครัว เสื้อผ้า และของใช้ ต่างๆซึ่งได้ทำการขนย้ายของในเขตพื้นที่พัทยาใต้ ขึ้นของในช่วงเวลา 7 โมง 30 นาที เรามีพนักงานไปช่วยยกสินค้าจำนวน 4 คน แล้วก็ออกเดินทางประมาณ 10.00 น วิ่งไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มแล้วจอดรอลงของให้กับลูกค้าตอนเช้าวันถัดไปเรื่องจากว่าลูกค้า ไม่สะดวกคนย้ายในเวลากลางคืน เราก็ได้อำนวยความสะดวกให้ ทำให้ลูกค้าซึ่งคุณจอยมีความประทับใจในงานบริการที่ได้ใช้บริการ จากทีมงานรถ 6 ล้อรับจ้าง ของทีมขนส่ง

3. รถเฮี๊ยบรับจ้างชลบุรี  รีวิวจาก คุณก้อย เนื่องจากคุณก้อยต้องการที่จะ ย้ายต้นไม้ จากตัวเมืองชลบุรี ไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งลูกค้าได้มีการเตรียมต้นไม้ใบเรียบร้อยแล้ว รถรับจ้าง ไปถึงหน้างานก็สามารถที่จะยกได้เลยวันนั้นใช้รถเฮี้ยบขนาด 3.5 ตัน ในการขนย้าย ซึ่งก็ เริ่ม เข้าดำเนินการขนย้ายตั้งแต่ช่วง 8.00 น มาถึงฉะเชิงเทราแถวแปดริ้ว เวลา 9.00 น จึงเสร็จเรียบร้อยดี ลูกค้าพูดจาดีอัธยาศัยดีมาก และเราก็บริการงานขนย้ายอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ทำให้งานนั้นออกมาดี ต้นไม้ไม่เสียหาย

4. รถสิบล้อรับจ้างขนของชลบุรี รอบนี้ลูกค้าได้รีวิวจากคุณ โบว์ เนื่องจากคุณโบว์ต้องการที่จะขนย้ายวัสดุก่อสร้าง จาก อำเภอศรีราชาซึ่งได้ใช้บริการ รถสิบล้อรับจ้างศรีราชา วิ่งไปยัง อำเภอบ้านบึงจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นงานขนย้ายของในตัวจังหวัด สินค้าที่ทำการขนย้ายก็เป็นจำพวกกระเบื้องปูน เหล็ก โดยลูกค้าใช้พนักงานที่ร้านในการขนยกสินค้าเอง เพราะจะต้องมีความชำนาญพอสมควรโดยเฉพาะกระเบื้องจะต้องมีการจัดเรียงที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเสียหาย

ส่วนทีมงานรถรับจ้างขนของก็จะพยายาม ระมัดระวังในการขับรถมากเป็นพิเศษ ซึ่งต่างจากเสร็จงานลูกค้าให้คำชื่นชมในงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของชลบุรีนี้พอสมควร เนื่องจากว่ารถมาถึงหน้างานก่อนเวลานัด มีการเตรียมพร้อมและทำความสะอาดรถได้เป็นอย่างดี เตรียมอุปกรณ์ผ้าใบคลุมรถที่ไม่ขาดไม่รั่ว จึงทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ

นี่ก็เป็นรีวิวของงานบริการ รถขนของจังหวัดชลบุรี ในบางส่วนซึ่งการบริการทุกท่านบริการทางทีมงานรถรับจ้างจะต้องมีความรับผิดชอบและ มีความซื่อสัตย์ต่อการบริการของตนเองให้ดีที่สุดดังนั้นการที่เราจะเลือกใช้บริการขนของในแต่ละครั้งจะต้องคำนึงว่าผู้ให้บริการรายนั้นมีตัวตนหรือไม่สามารถติดต่อได้รวดเร็วแค่ไหน และก็ต้องมีงานบริการที่ครอบคลุมให้เราได้เลือกใช้รถรับจ้างที่มากมายหลากหลายขนาด เป็นต้น

ในเนื้อหาบทความนี้เราจะพยายามเน้นให้ท่านได้รู้ถึงรายละเอียด และความต้องการที่ท่านควรจะแจ้งต่อผู้ให้บริการ รถรับจ้าง ได้สร้างเพื่อที่ท่านจะได้คำตอบ และการบริการที่ ได้ตรงตามสิ่งที่ เรากำลังจะขน ซึ่งถ้าหากยังติดขัดในเรื่องใดหรือต้องการที่จะสอบถามความรู้เบื้องต้นก่อนการขนย้าย จนกระทั่งราคาค่าขนย้ายที่ควรจะเป็นมาตรฐาน ในการเลือกใช้บริการ รถรับจ้างขนของชลบุรี ในแต่ละครั้งซึ่งเราจะ ให้รายละเอียดเบอร์โทรสำหรับท่านที่สนใจลองโทรเข้าไปเช็คดูก่อน

ซึ่งผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่ เขายินดีที่จะให้ข้อมูลก่อนที่ท่านจะตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ จึงอยากให้ท่านพิจารณาดูก่อน หรือจะโทรมาถามรายละเอียดราคา ค่าขนย้ายที่เป็นมาตรฐาน

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่: รถรับจ้างขนของชลบุรี บริการดี ราคาไม่แพง สอบถามได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กทที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

40
วีโว่ vivo Y36 5G (2023) (8GB/256GB)
ขยาย RAM เพิ่มได้ถึง 8GB ทำให้การสลับไปมาระหว่างแอปราบรื่น
ความจุขนาดใหญ่ 256GB
แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมกับ FlashCharge ใช้งานได้นานขึ้น
MediaTek Dimensity 6020 อันทรงพลังของเราช่วยให้การทำงานราบรื่น


รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                วีโว่ vivo Y36 5G (2023) (8GB/256GB)
   ราคากลาง              8,999 บาท
   จำนวนซิม               2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์              จอสัมผัส
   สี                         Black(Mystic Black), Green(Crystal Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G(B2/3/5/8)
3G(B1/2/4/5/8)
4G(B1/2/3/4/5/7/8/20/28)
5G(n1/3/5/7/8/28/38/40/41/77/78)

   ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 164.06 x กว้าง 76.17 x หนา 7.98 มม., น้ำหนัก 190 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด    Micro SD
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ      ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                         จอสัมผัส (LCD)
   ความละเอียด                  6.64 นิ้ว, 2,388 x 1,080 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            Auto Focus, Flash

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           Dimensity 6020
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Mali-G57 MC2
   หน่วยความจำ (RAM)              8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB(Type-C), Bluetooth(5.0), Wi-Fi(2.4 GHz/5 GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                  -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, WiFi, 4G, 5G

วีโว่ vivo Y36 5G (2023) (8GB/256GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/vivo/

41
ชมภาพคันจริง All-new Mitsubishi TRITON 2024 รุ่นตัวถัง Single Cab (ตอนเดี่ยว) ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งตรงจากงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่าย 699,000 - 749,000 บาท

   
ปัจจุบัน All-new Mitsubishi TRITON 2024 รุ่น Single Cab มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.4 PRO 4WD และ 2.4 PRO 4WD AT โดยมีราคาจำหน่ายแต่ละรุ่นย่อย ดังนี้

    รุ่น 2.4 PRO 4WD ราคา 699,000 บาท
    รุ่น 2.4 PRO 4WD AT ราคา 749,000 บาท

     มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024 รุ่น ซิงเกิลแค็บ ทั้ง 2 รุ่นย่อย ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Hyper Power ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250 - 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Auto Stop & Go เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งสองรุ่นย่อย

     ทั้งคู่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Easy Select 4WD สามารถปรับโหมดการขับเคลื่อนได้ 3 โหมด ประกอบด้วย 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง), 4H (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4L (สำหรับการขับขี่อัตราทดความเร็วต่ำ) พร้อม Diff-lock ที่เฟืองท้าย และ Active Limited Slip (Brake Control Type)

     อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกทั้ง 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ฮาโลเจน, ไฟท้ายแบบมาตรฐาน, กระจังหน้าสีดำพร้อมสัญลักษณ์ MITSUBISHI, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา, ขอเกี่ยวขอบกระบะด้านนอกตัวถัง, ยางกันโคลนที่ซุ้มล้อหน้า-หลัง, แผ่นกันกระแทกด้านล่าง และล้อกระทะขนาด 16 นิ้ว

     ภายในห้องโดยสารเบาะนั่งหุ้มวัสดุไวนิล, พวงมาลัยและหัวเกียร์ทำจากวัสดุยูรีเทน, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติฝั่งผู้ขับขี่, ระบบปรับอากาศแบบมาตรฐาน, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, ลำโพง 2 ตำแหน่ง, ช่องจ่ายไฟ USB-A 1 ตำแหน่ง และ USB-C Fast Charge 1 ตำแหน่ง เป็นต้น

ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS Airbag, ถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC, ระบบควบคุมการลื่นไถล TCL, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS, ระบบเบรก ABS/EBD/BA และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX พร้อมที่เกี่ยวเบาะนั่งด้านผู้โดยสารด้านหน้า

     
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Solid White, สีเงิน Blade Silver, สีเทา Graphite Gray และสีดำ Jet Black Mica


Mitsubishi Triton 2024: Mitsubishi TRITON 2024 รุ่น Single Cab ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/

42
เอสแอลอี เป็นชื่อเรียกทับศัพท์ของอักษรย่อในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีคำเต็มว่า systemic lupus erythematosus

โรคนี้มักจะมีความผิดปกติของอวัยวะได้หลายระบบ (เช่น ผิวหนัง ข้อกระดูก ไต ปอด หัวใจ เลือด สมอง เป็นต้น) พร้อม ๆ กัน และอาจมีความรุนแรงทำให้พิการหรือตายได้

โรคนี้พบประปรายได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ พบมากในช่วงอายุ 20-45 ปี และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 10 เท่า


สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าเป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการตอบสนองอย่างผิดปกติต่อเชื้อโรคหรือสารเคมีบางอย่าง ทำให้มีการสร้างสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ต่อเนื้อเยื่อต่าง ๆ จึงจัดเป็นโรคภูมิต้านตนเอง (autoimmune) เช่นเดียวกับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

บางครั้งอาจพบมีสาเหตุกระตุ้นให้อาการกำเริบ เช่น ยาบางชนิด (เช่น ซัลฟา ไฮดราลาซีน เมทิลโดพา โปรเคนเอไมด์ ไอเอ็นเอช คลอร์โพรมาซีน ควินิดีน เฟนิโทอิน ไทโอยูราซิล) การถูกแดด การกระทบกระเทือนทางจิตใจ การตั้งครรภ์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่า อาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง (เนื่องจากพบมากในหญิงวัยหลังมีประจำเดือน และก่อนวัยหมดประจำเดือน) และกรรมพันธุ์ (พบมากในคนที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้)


อาการ

ที่พบได้บ่อยคือ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อยตามตัว ปวดและบวมตามข้อต่าง ๆ ซึ่งโดยมากจะเป็นตามข้อเล็ก ๆ (เช่น ข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า) ทั้ง 2 ข้างคล้าย ๆ กับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (แต่ต่างกันที่ไม่มีลักษณะหงิกงอ ข้อพิการ) ทำให้กำมือลำบาก

อาการเหล่านี้จะค่อยเป็นค่อยไปเป็นแรมเดือน

นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมักจะมีผื่นหรือฝ้าแดงขึ้นที่ข้างจมูกทั้ง 2 ข้าง ทำให้มีลักษณะเหมือนปีกผีเสื้อ เรียกว่า ผื่นปีกผีเสื้อ (butterfly rash)

บางรายมีอาการแพ้แดด คือ เวลาไปถูกแดด ผิวหนังจะมีผื่นแดงเกิดขึ้น และผื่นแดงที่ข้างจมูก (ผื่นปีกผีเสื้อ) จะเกิดขึ้นชัดเจน อาการไข้และปวดข้อจะเป็นรุนแรงขึ้น

บางรายอาจมีจุดแดง (petechiae) หรือมีประจำเดือนมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นอาการระยะแรกของโรคนี้ก่อนมีอาการอื่น ๆ ให้เห็นชัดเจน บางครั้งแพทย์อาจวินิจฉัยว่าเป็นไอทีพี

บางรายอาจมีอาการหูอื้อ หูตึง ผมร่วงมาก มีจ้ำแดง ๆ ขึ้นที่ฝ่ามือ นิ้วมือนิ้วเท้าซีดขาวและเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำเวลาถูกความเย็น (Raynaud’s phenomenon) หรือมีภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงถูกทำลาย

ในรายที่เป็นรุนแรง อาจมีอาการบวมทั้งตัว (จากไตอักเสบ) หายใจหอบ (จากปอดอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด หรือหัวใจวาย) ชีพจรเต้นเร็วหรือไม่เป็นจังหวะ (จากหัวใจอักเสบ)

ในรายที่มีการอักเสบของหลอดเลือดในสมอง อาจทำให้มีอาการทางประสาท เช่น เสียสติ ซึม เพ้อ ประสาทหลอน แขนขาอ่อนแรง ตาเหล่ ชัก หมดสติ และอาจตายภายใน 3-4 สัปดาห์

ส่วนมากจะมีอาการกำเริบ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นปี ๆ


ภาวะแทรกซ้อน

อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ อาทิ

    ไต เช่น ไตอักเสบ ไตวาย
    ปอด เช่น เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ปอดอักเสบ เลือดออกในปอด ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion)
    หัวใจ เช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มหัวใจ (pericardial effusion) กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจวาย
    เลือดและหลอดเลือด เช่น โลหิตจาง เลือดออกง่าย หลอดเลือดอักเสบ ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
    สมองและระบบประสาท เช่น สมองอักเสบ (ทำให้มีอาการชัก สับสน โรคจิต) โรคลมอัมพาต (สโตร๊ก) จากลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ความจำเสื่อม ภาวะซึมเศร้า ไขสันหลังอักเสบ
    กระดูก เช่น กระดูกพรุน กระดูกหัก ซึ่งเป็นแทรกซ้อนจากตัวโรคเองและการใช้ยาสเตียรอยด์ในการรักษา
    การติดเชื้อ เช่น โรคติดเชื้อของผิวหนัง ทางเดินหายใจ และทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำจากตัวโรคและการใช้ยากดภูมิคุ้มกันในการรักษา
    มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ผู้ที่เป็นโรคนี้ยังอาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าคนทั่วไป
    หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้ อาจมีอาการกำเริบมากขึ้น และเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ภาวะครรภ์เป็นพิษ ทารกคลอดก่อนกำหนด


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย ในระยะแรกอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ระยะต่อมาจะพบไข้ ผื่นปีกผีเสื้อที่แก้ม ข้อนิ้วมือนิ้วเท้าบวมแดง ผมร่วงผมบาง อาจคลำพบต่อมน้ำเหลืองโต ตับ ม้ามโต

นอกจากนี้อาจพบอาการอื่น ๆ เช่น จุดแดงจ้ำเขียวตามตัว ลมพิษ ภาวะซีด ตาเหลือง (ดีซ่าน) บวม ชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจหอบเร็ว เป็นต้น

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด อาจพบว่ามีภาวะโลหิตจาง จำนวนเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ ค่าอีเอสอาร์ (ESR) สูง พบแอนตินิวเคลียร์แอนติบอดี (antinuclear antibody/ANA)

ตรวจเลือดดูการทำงานของตับและไต อาจพบว่าผิดปกติ

ตรวจปัสสาวะอาจพบสารไข่ขาวและเม็ดเลือดแดง

นอกจากนี้ อาจทำการตรวจเอกซเรย์ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และตรวจพิเศษอื่น ๆ

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจชิ้นเนื้อผิวหนังและไต


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ในรายที่เป็นไม่รุนแรง (เช่น มีไข้ ปวดข้อ มีผื่นแดงขึ้นที่หน้า) อาจเริ่มให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก ไพร็อกซิแคม นาโพรเซน) ถ้าไม่ได้ผลอาจให้ไฮดรอกซีคลอโรควีน (hydroxychloroquine) เพื่อช่วยลดอาการเหล่านี้

ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์จะให้สเตียรอยด์ เช่น เพร็ดนิโซโลน ติดต่อกันเป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน เพื่อลดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ เมื่อดีขึ้นจึงค่อย ๆ ลดยาลง และให้ในขนาดต่ำควบคุมอาการไปเรื่อย ๆ อาจนานเป็นแรมปี หรือจนกว่าจะเห็นว่าปลอดภัย ถ้าไม่ได้ผลอาจต้องให้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น เมโทเทรกเซต (methotrexate), ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide), อะซาไทโอพรีน (azathioprine), ไมโคฟีโนเลตโมเฟทิ (mycophenolate mofeti) เป็นต้น บางรายที่ดื้อต่อยากลุ่มอื่น แพทย์อาจให้ยากลุ่มใหม่ เช่น ไรทูซิแมบ (rituximab), เบลิมูแมบ (belimumab)

นอกจากนี้ อาจให้ยารักษาตามอาการและภาวะที่พบ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาบำรุงโลหิต (ถ้าซีด) ยาปฏิชีวนะ (ถ้ามีการติดเชื้อ) เป็นต้น

ผลการรักษา ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและตัวผู้ป่วย บางรายอาจมีโรคแทรกซ้อน และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในเวลาไม่นาน

บางรายอาจมีอาการกำเริบเป็นครั้งคราว ถ้าผู้ป่วยสามารถมีชีวิตรอดจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้เกิน 5 ปี โรคก็จะไม่กำเริบรุนแรง และค่อย ๆ สงบไปได้ นาน ๆ ครั้งอาจมีอาการกำเริบ แต่อาการมักจะไม่รุนแรง และผู้ป่วยสามารถมีชีวิตเยี่ยงคนปกติได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้เรื้อรัง (นานเกิน 7 วัน) ปวดบวมตามข้อนิ้วมือและกำมือลำบาก มีผื่นหรือฝ้าแดงที่ข้างจมูก จุดแดงตามผิวหนัง หน้าตาซีด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคเอสแอลอี ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

2. ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

3. ควรปฏิบัติตัว ดังนี้

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ ฝึกโยคะ รำมวยจีน เป็นต้น
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เป็นต้น ควรออกกำลังแต่พอประมาณ อย่าให้หนักเกินไป
    บำรุงร่างกายด้วยอาหารสุขภาพ กินอาหารครบ 5 หมู่อย่างถูกสัดส่วนตามหลักธงโภชนาการ
    หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด เพราะจะกระตุ้นให้ผื่นที่ผิวหนังกำเริบมากขึ้น ถ้าจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้ง ควรกางร่ม สวมหมวก หรือใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
    งดบุหรี่ เพื่อสุขภาพและป้องกันโรคแทรกซ้อนทางปอด หัวใจและหลอดเลือด
    งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน และการมีปฏิกิริยากับยาที่รักษา
    ถ้ามีโอกาส ควรเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มมิตรภาพบำบัดสำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคนี้ เพื่อเรียนรู้และดูแลช่วยเหลือ เสริมกำลังใจกัน
    ผู้ป่วยมักมีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรพยายามหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เช่น อย่ากินอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด อย่าเข้าใกล้คนที่ไม่สบาย อย่าเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด เป็นต้น
    หลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง เพราะอาจมีผลทำให้โรคกำเริบ หรือเกิดปฏิกิริยาด้านลบกับยาที่ใช้รักษาอยู่ก่อน
    สำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้โรคกำเริบมากขึ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อผู้ป่วยและทารกในครรภ์ได้ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการคุมกำเนิด จนกว่าโรคเข้าสู่ระยะสงบ และแพทย์เห็นว่าสามารถตั้งครรภ์ได้

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้สูง ปวดท้องมาก ท้องเดินมาก อาเจียนมาก เจ็บหน้าอก บวม หน้าตาซีด อ่อนเพลีย แขนขาชาหรืออ่อนแรง เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรหาทางป้องกันไม่ให้โรคกลายเป็นรุนแรงด้วยการดูแลรักษากับแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้สามารถแสดงอาการได้หลายแบบ เช่น มีไข้เรื้อรังคล้ายมาลาเรีย เอดส์ วัณโรค มีจุดแดงขึ้นคล้ายไอทีพี บวมคล้ายโรคไตเนโฟรติก ชักหรือหมดสติคล้ายสมองอักเสบ เสียสติ เพ้อคลั่งคล้ายคนวิกลจริต เป็นต้น ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นอาการของระบบใดโดยไม่ทราบสาเหตุควรนึกถึงโรคนี้ไว้เสมอ

2. โรคนี้ถึงแม้จะมีความรุนแรง แต่ถ้าติดต่อรักษากับแพทย์เป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และมีชีวิตยืนยาวได้


หมอประจำบ้าน: เอสแอลอี (SLE) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

43
โรคเบาหวาน หนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้หลากหลาย หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย คือ ไตเสื่อม ไตวาย

หลายคนเข้าใจว่าเพราะป่วยเป็นเบาหวานแล้วต้องกินยาเยอะมาก ทำให้ไตมีปัญหา จึงกลัวการกินยา หยุดยาเอง ไม่กินยา ผลก็คืออาการเบาหวานแย่ลง และยิ่งทำให้การรักษายุ่งยากซับซ้อนขึ้นมาก บทความนี้ พญ.ศศิภัสช์ ช้อนทอง แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม หรือ หมอจิ๊ง จะมาแนะนำข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อการดูแลร่างกาย และรับมือกับโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
ไตวาย เพราะโรคเบาหวาน จริงหรือ ?

สิ่งแรกที่ควรเข้าใจให้ถูกต้อง คือ ไตวาย ไตเสื่อม หรือ โรคไตเรื้อรัง มาจากลักษณะการดำเนินโรคของโรคเบาหวาน ไม่ใช่ยาเบาหวาน โดยโรคเบาหวานนั้นมีอาการตรงตามชื่อ คือ มีน้ำตาลปนออกมากับปัสสาวะ จากภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง (มากกว่า 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร)

“ในคนทั่วไป หากกลไกการทำงานของหน่วยไตเป็นปกติ ร่างกายจะสามารถดูดเอาน้ำตาลกลับไปทางหน่วยไต ไม่ได้ปะปนมากับปัสสาวะ แต่ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไม่ว่าจะมาจากร่างกายขาดอินซูลิน หรือมีภาวะดื้ออินซูลินก็ตาม ทำให้การดูดซึมน้ำตาลของไตไม่มีประสิทธิภาพ น้ำตาลบางส่วนถูกปล่อยออกมา”

“เหตุผลที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้การทำงานของไตผิดปกติ มาจากน้ำตาลในเลือดก่อให้เกิดภาวะอักเสบ โดยเฉพาะในหลอดเลือด พออักเสบ เกิดแผล ร่างกายก็จะพยายามสมานแผล เกิดเป็นหินปูนหรือคราบตะกรันต่าง ๆ มาเกาะตามผนังหลอดเลือด เส้นเลือดจึงมีปัญหา รวมไปถึงเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กที่ไปที่ไต พอเส้นเลือดมีปัญหา ตีบแคบ เกิดความดันภายในหลอดเลือดเหล่านั้น ก็ส่งผลต่อหน่วยไต ช่วงแรกไตอาจยังทำงานได้ตามปกติ แต่จะมีโปรตีนรั่วออกมากับปัสสาวะ และเมื่อไตต้องทำงานหนัก ทำงานเยอะกว่าปกติ อาจส่งผลให้ไตวาย หรือไตเสื่อมได้นั่นเอง”

หากมีโปรตีนรั่วมากับปัสสาวะไปสักระยะหนึ่ง จะทำให้เกิดการตายของหน่วยไต และเซลล์ที่อยู่บริเวณหน่วยไต ทำให้การทำงานในการกรองของเสียออกทางปัสสาวะลดลง จึงเกิดเป็น ภาวะเบาหวานลงไต


เมื่อใคร ๆ ก็โทษยาเบาหวาน

เมื่อป่วยเป็นเบาหวาน และมีภาวะไตเสื่อม ไตวาย บางครั้งแพทย์จำเป็นต้องเปลี่ยนยารับประทาน ในยาบางชนิดต้องขับออกทางไต หลายคนจึงมักเข้าใจว่าเป็นเพราะยาโรคเบาหวานที่เป็นตัวการให้ไตเสื่อม แต่ความจริงแล้ว ยาโรคเบาหวานนั้น มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคไตด้วยซ้ำ

“ที่แพทย์ต้องปรับยา เพราะว่ายาบางชนิดขับออกทางไต เวลาผู้ป่วยมีภาวะไตเสื่อม การทำงานของไตจะลดลงจากภาวะเบาหวานที่คุมไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยจะได้รับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของยานั้น ๆ เยอะกว่าปกติ เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำ เลือดเป็นกรด สรุปแล้ว ที่เปลี่ยนยาไม่ใช่เพราะกลัวว่ากินเข้าไปแล้วทำให้ไตวาย แต่กลัวว่าการที่ไตทำงานได้ไม่ดี จะทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาเยอะขึ้นค่ะ”

ตามหลักแล้ว ยาเบาหวาน ไม่ได้ทำร้ายไต เนื่องจากยาออกฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ในระยะยาวจะช่วยลดโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง ป้องกันความดันไปทำให้เกิดปัญหากับไตได้

ในปัจจุบัน มียากลุ่มใหม่ ๆ ที่มีงานศึกษาวิจัย พบว่าช่วยป้องกันการเกิดภาวะไตเสื่อมได้ ได้แก่ ยากลุ่ม SGLT2 inhibitor มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ขับกลูโคสออกทางไต ทำให้เส้นเลือดที่วิ่งไปยังไตหดตัว จึงไม่ทำให้ความดันโลหิตส่งผลเสียต่อไต และปกป้องไม่ให้ไตเสื่อม

“ในระยะยาว มีการศึกษาในผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้ พบว่านอกจากจะลดน้ำตาลในเลือดได้แล้ว ยังทำให้ภาวะโปรตีนรั่วในปัสสาวะดีขึ้นด้วย นอกจากยากลุ่มที่กล่าวไปข้างต้น ยังมียากลุ่มอื่นอีก เช่น GLP-1 agonists ซึ่งเป็นยาเบาหวานกลุ่มใหม่ที่สามารถลดภาวะโปรตีนรั่วได้เช่นกัน”

“ยาทั้งสองกลุ่มตอนนี้ราคาจะค่อนข้างสูง มีการเบิกจ่ายตามกรมบัญชีกลาง มีข้อบ่งชี้ในการพิจารณาจ่ายยาให้กับผู้ป่วยกลุ่มที่มีภาวะไตเสื่อม และภาวะโปรตีนรั่ว อีกทั้งยังใช้ได้ในผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ป่วยที่มีปัญหาน้ำท่วมปอด ในยากลุ่ม GPL-1 agonists ยังสามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดสมองตีบอีกด้วย”

ถึงแม้ยาเบาหวาน จะไม่ใช่ยากลุ่มที่ส่งผลต่อการทำงานของไตอย่างที่เข้าใจ แต่ก็มียาบางกลุ่มที่ส่งผลต่อไต แต่หลายคนอาจมองข้าม และชอบซื้อมารับประทานเอง อาทิ ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs ยาปฏิชีวนะบางชนิด รวมไปถึงยาหม้อ ยาต้ม ยาลูกกลอน ยาสมุนไพร บางครั้งยาเหล่านี้มักก่อให้เกิดปัญหากับไตโดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบ


เมื่อผู้ป่วยหยุดยาเอง ความยากจึงบังเกิด

“มีคนไข้เยอะเลยที่หยุดยาเองเพราะคิดว่ากินยาเบาหวานแล้วทำให้เป็นโรคไต หมอเองก็ต้องคอยปรับความเข้าใจกับคนไข้ ว่าที่ไตแย่ลง เพราะไม่ยอมกินยา ไม่คุมเบาหวาน ไม่ใช่ไตแย่ลงเพราะกินยา”

หลังจากผู้ป่วยเบาหวานหยุดยาเอง ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น และมักจะมาด้วยอาการปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย น้ำหนักลด เหนื่อย เพลีย ไม่มีแรง เพราะร่างกายเอาน้ำตาลส่วนเกินไปใช้ไม่ได้เลย อินซูลินไม่ดึงเอาน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน

“มีบางคนที่อยากน้ำหนักลด จึงปล่อยให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงค่ะ ซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เรียกว่าอันตรายเลย หากน้ำตาลในเลือดสูงมาก เลือดก็เป็นกรด ระดับเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการซึม สับสน ขาดน้ำ และไตวาย”


    อันตรายที่เกิดกับดวงตา

อย่างที่เข้าใจ ว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดต่าง ๆ จอประสาทตาเองก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีหลอดเลือดขนาดเล็กไปเลี้ยง เมื่อหลอดเลือดเหล่านี้มีปัญหา จอประสาทตาจึงเสื่อม การมองเห็นค่อย ๆ ลดลง บางครั้งอาจมีอาการเฉียบพลัน มองไม่เห็นไปเลย แต่โดยส่วนมากจะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ผู้ป่วยรู้ตัวอีกที จอประสาทตาก็เสื่อม มีเลือดออกในวุ้นลูกตา หรือตาบอดไปแล้ว


    ชาปลายมือปลายเท้า

ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เส้นประสาทส่วนปลายมีปัญหา จึงเกิดอาการชาปลายมือปลายเท้า บางราย จะมีอาการที่เชื่อมโยงกับเส้นประสาทอัตโนมัติร่วมด้วย เช่น ใจสั่น หน้ามืดบ่อย เวียนศีรษะบ่อย บ้างเหงื่อออกผิดปกติ บ้างไม่มีเหงื่อ ขนร่วง มือเท้าเย็น


    หลอดเลือดใหญ่อักเสบ

หลอดเลือดใหญ่ที่เราคุ้นเคยกันดี คือ หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง หากมีอาการอักเสบจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็อาจทำให้เกิดอาการหลอดเลือดตีบ และถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ หลอดเลือดหัวใจจะมีโอกาสตีบสูงมาก ส่วนหลอดเลือดสมอง หากตีบก็อาจเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาตได้

วลี ‘หวานตัดขา’ มีที่มา

อีกหนึ่งผลกระทบที่มาจากความเสียหายของหลอดเลือด คือ ขา เพราะเมื่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณปลายมือปลายเท้าตีบ อาจทำให้มีอาการเดินแล้วปวดขา ยกขาขึ้นสูงก็จะยิ่งปวด เนื่องจากเลือดลงไปเลี้ยงได้ไม่ดี

“บางคนมีแผลแล้วไม่รู้ตัว ตรงนี้เกิดจากเส้นประสาทที่ผิดปกติ ได้รับความเสียหายจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน อีกทั้งน้ำตาลยังทำให้ภูมิคุ้มกันผิดปกติ ติดเชื้อง่าย พอเป็นแผลแล้วก็จะหายยาก พอเป็นแผลแล้วไม่รู้ตัวก็ปล่อยลาม หลอดเลือดตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่พอ พอขาดเลือด แผลขยาย ยิ่งติดเชื้อเข้าไปใหญ่ รู้ตัวอีกที ต้องถูกตัดเท้าแล้ว”


เหตุผลที่ทำให้คนคุมเบาหวานไม่ได้

“ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาด้วยอาการจากโรคเบาหวานที่คุมไม่อยู่ เพราะไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวานค่ะ” หมอจิ๊งตอบคำถามนี้ได้อย่างน่าสนใจ เนื่องจากคนไม่รู้ จึงไม่ได้คุม เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ตอนมีอาการแทรกซ้อนแล้ว

“บางครั้งผู้ป่วยก็รู้ตัวว่ามีภาวะผิดปกติอะไรบางอย่าง เพียงแต่บางคนอดทน คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก บางคนเชื่อว่าไม่ตรวจก็ไม่เจอ กลัวการตรวจสุขภาพ หรือบางคนก็เพราะละเลยการตรวจสุขภาพประจำปี จึงไม่รู้ว่าตอนนี้สภาพร่างกายมันเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว มีความผิดปกติอะไรแสดงออกมาไหม”

ความจริงแล้ว โรคเบาหวาน อาจไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าเป็นเลย กว่าจะตรวจเจอเพราะเกิดความปกติ ก็อาจจะมีพยาธิสภาพของโรคเกิดขึ้นมาก่อนหน้ากว่า 10 ปีแล้ว การละเลยการตรวจสุขภาพประจำปีจึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้กว่าจะรู้ตัว การดำเนินของโรคก็สร้างความเสียหายให้กับร่างกายไปมากแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้ ยาสมุนไพรบางอย่าง อาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์โดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ กินแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย ผิวพรรณดี เปล่งปลั่ง หายปวดเมื่อย เจริญอาหาร เหมือนยาครอบจักรวาล พอหยุดกินจะอ่อนเพลียทันที ยาเหล่านี้หากกินต่อเนื่องในระยะยาวจะทำให้ระดับน้ำตาลใน
เลือดสูง ความดันโลหิตสูง และไตวายได้

“ปัญหาอีกอย่างที่แก้ไม่ตก คือ พฤติกรรมการกินของผู้ป่วย เพราะลักษณะของโรคเบาหวาน คือ มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ร่างกายของผู้ป่วยเอาไปใช้ไม่ได้ เลยทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลและพลังงานไม่เพียงพอ ทำให้อยากกินของหวาน ๆ แล้วไปแอบกิน นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานคุมน้ำตาลไม่ได้ เพราะน้ำตาลเกิน แต่อวัยวะต่าง ๆ มีภาวะขาดน้ำตาล”

ทำไมต้องกินยา ต้องคุมน้ำตาล

ระดับน้ำตาลในเลือดสูง นอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด นำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลเป็นพิษ ซึ่งไปทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินน้อยลง หรือทำงานได้ไม่ดี พออินซูลินเอาน้ำตาลเข้าเซลล์ไม่ได้ น้ำตาลก็ค้างอยู่ในเลือด ก็ยิ่งทำให้การอักเสบและการดำเนินโรคแย่ขึ้นไปอีก แต่ถ้าหากผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในลดลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการกินยา หรือควบคุมอาหาร เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในภาวะปกติ ตับอ่อนก็จะกลับมาทำงานได้มากขึ้น เพราะภาวะน้ำตาลเป็นพิษลดลงนั่นเอง

“จุดประสงค์ของการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน คือ ทำยังไงก็ได้ให้การนำน้ำตาลไปใช้ในร่างกาย ใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด”
เมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน ควรตรวจสุขภาพอย่างละเอียด


“สิ่งสำคัญจริง ๆ คือ ควรรู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวานให้เร็ว และเข้าถึงการรักษาให้เร็วที่สุด”

คุณหมอจิ๊ง แนะนำว่า เมื่อรู้ว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควรตรวจภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ประเมินระยะของโรค ระดับน้ำตาลในเลือดสะสม รวมไปถึงเช็กว่ามีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่

ผู้ป่วยเบาหวานควรตรวจวัดระดับไขมันในเลือด ความดันโลหิต ตรวจการทำงานของไตและตับ ตรวจจอประสาทตา รวมไปถึงตรวจร่างกายอย่างละเอียดว่ามีภาวะเส้นเลือดสมองตีบอยู่ไหม มีอาการบางอย่างที่บอกว่าอาจมีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบแล้วไม่รู้มาก่อนหรือไม่ ที่ขาดไม่ได้คือการตรวจเท้า ว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นแผลเบาหวานมากแค่ไหน

“สิ่งที่สำคัญแต่หลายคนมองข้ามคือการฉีดวัคซีน ผู้ป่วยเบาหวานมักจะมีภูมิคุ้มกันที่ไม่ดี เพราะระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง จะติดเชื้อง่าย ติดเชื้อนิด ๆ หน่อย ๆ ก็จะเป็นหนักกว่าคนอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ”

“โรคที่ว่ามามีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ เมื่อติดเชื้อก็จะช่วยให้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือไม่ทำให้มีอาการหนักจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจได้ โดยวัคซีนที่แนะนำคือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฉีดปีละครั้ง กับวัคซีนปอดอักเสบฉีดห้าปีครั้ง”
การรักษาที่เหมาะสม ช่วยได้

ในผู้ป่วยเบาหวาน แพทย์จะประเมินตามอาการแสดงและระยะของโรคเป็นรายบุคคล ประกอบกับดูภาวะแทรกซ้อน เช่น หากมีภาวะโปรตีนรั่ว จะเลือกยาชนิดที่ช่วยป้องกันโปรตีนรั่ว ในรายที่มีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบไปแล้ว จะเลือกยาที่ป้องกันการตีบซ้ำ

“หากเพิ่งป่วยเบาหวาน อายุไม่มาก ยิ่งรีบรักษา ยิ่งมีโอกาสที่จะช่วยให้โรคสงบ หยุดยาเบาหวานได้เป็นระยะเวลานาน ตราบใดที่ยังคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ค่ะ”

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ดังนี้

    มีดัชนีมวลกายมากกว่า 23 (ภาวะน้ำหนักเกิน)
    มีประวัติครอบครัวป่วยโรคเบาหวาน
    มีอาการต้องสงสัยว่าเป็นโรคเบาหวาน
    เคยเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
    มีภาวะโรคอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง มีเส้นเลือดต่าง ๆ ผิดปกติ เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดสมองตีบ


โรคไตวายเพราะยาเบาหวาน ความเข้าใจผิดที่ทำให้โรคแย่ลง  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/298

44
การจัดฟันแบบใส ถือเป็นการจัดฟันที่เป็นที่นิยมมาก เพราะการจัดฟันแบบใสมีจุดเด่นมากกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆ การจัดฟันแบบใสมีข้อจำกัดในการรักษาหลายอย่าง ถึงแม้จะเป้นการจัดฟันที่เป็นที่นิยม และมีการนำนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ แต่ในเรื่องของข้อจำกัดก็มี และไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ ข้อจกกัดในการรักษาถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องระวังมากเป็นพิเศษ ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาจะต้องบอกข้อมูลอย่างละเอียดแก่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อที่จะช่วยให้ผลการรักษาประสบความสำเร็จ ทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษา ซึ่งแผนการรักษาในแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน เพราะมีสภาพฟันและปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียด โดยจะดูปัจจัยหลักๆจองการฝังรากฟันเทียม เช่น ดูบริเวณฟันโดยรอบ กระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับช่องปากที่ทันตแพทย์ต้องทำการตรวจ เพราะบางโรคทันตแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้จัดฟันแบบใส เพราะจะทำให้เกิดอันตราย หรือบางครั้งในการจัดฟันแบบใสอาจจะไม่มีผลดีต่อช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา

หากผู้ที่จะเข้ารับการรักษาเป็นโรคเหงือกอักเสบ จะต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์ผู้เข้ารับการนรักษาก่อนเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งบางกรณีวัสดุที่เป็นในส่วนของเครื่องมือจัดฟัน อาจจะส่งผลต่อผู้เข้ารับการรักษาได้ด้วย ซึ่งวัสดุที่เป็นเครื่องมือการจัดฟัน ผู้ป่วยอาจจะเกิดอาการแพ้ เพราะฉะนั้นถ้าหากมีความผิดปกติ ผู้เข้ารับการรักษาควรเข้าปรึกษาทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที และต้องหยุดใช้เครื่องมือ อาการผิดปกติอาจจะสังเกตได้คือ ผู้เข้ารับการรักษาอาจจะมีอาการบวมแดง หรืออาการอักเสบ หลังจากใช้เครื่องมือการจัดฟัน หากไม่หยุดใช้อาจจะเกิดผลเสียต่อการรักษาและช่องปากได้


เพราะฉะนั้น หลังจากการเข้ารับการจัดฟัน ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องคอยสังเกตอาการผิดปกติ และหากมีปัญหาควรรีบปรึกษาทันตแพทย์โดยด่วน การรักษาทางการจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ไร้ลวดเหล็ก ซึ่งประกอบด้วยชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใส แบบถอดได้ ที่จะต้องเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์ ตามลำดับของชิ้นเครื่องมือ โดยเครื่องมือจะออกแบบและผลิตขึ้นมาเฉพาะบุคคล เพราะสภาพฟันของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เป็นเครื่องมือที่ใส่สบาย ไม่ระคายเคืองปาก และยังสามารถรับประทานอาหาร ทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหลุดของเครื่องมือ


นอกจากนี้การปฏิบัติตัวขณะการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือการจัดฟัน เพราะด้วยเครื่อวมือที่สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร และขณะแปรงฟัน อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเผลอลืมใส่เครื่องมือ หากลืมบ่อยๆก็จะส่งผลต่อการรักษาทันที

ในการรับประทานอาหาร ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องถอดเครื่องมือทุกครั้ง เพราะการใส่เครื่องมือจัดฟันและรับประทานอาหารไปด้วย จะส่งผลให้เครื่องมือเกิดความเสียหายได้ รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นร้อนหรือเย็นก็ควรถอดเครื่องมือ ยิ่งถ้าเป็นเครื่องดื่มที่ร้อน แม้ว่าจะเป็นน้ำร้อนก็ควรจะถอดเครื่องมือ เพราะความร้อนของเครื่องดื่ม อาจจะส่งผลให้เครื่องมือบิดเบี้ยวได้ เพราะฉะนั้นนอกจากการดูแลสุขภาพช่องปาก การดูแลรักษาเครื่องมือก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกัน หากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษา โดยทีมทันตแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการจัดฟันทุกรูปแบบ นอกจากนี้ทางคลีนิคของเรายังมีการบริการทางทันตกรรมที่ครบวงจร มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งทำให้ผู้เข้ารับการรักษามั่นใจว่า คุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันและฟันที่ดีขึ้นมากอย่างแน่นอน



อาการของผู้ที่ ไม่สามารถ จัดฟันใส ได้ ! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

45
การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่เราจะต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเราจะต้องใช้งานช่องปากและฟันทุกวัน จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความสะอาดช่องปากและหันให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจจะตามมาในอนาคตได้ แต่นอกจากเรื่องของความสะอาดแล้ว ในเรื่องของปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับช่องปากและฟัน ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลักษณะของฟัน ปัญหาโรคเหงือกต่างๆ ซึ่งปัญหาที่เกี่ยวกับรูปร่างหรือลักษณะของฟันนั้น สามารถแก้ไขได้


เพราะในปัจจุบันวงการทันตกรรมได้มีความก้าวหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันที่มีปัญหาของรูปร่างที่ขึ้นผิดรูปร่างทำให้มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันนั้น หลายคนคงได้เห็นกันมาบ้างแล้ว และทราบกันดีว่า การจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ และยังเป็นการช่วยส่งเสริมในเรื่องของความสะอาดของปากและฟันด้วย เพราะการที่เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ จะทำให้เราสามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การจัดฟันยังทำให้เราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างละเอียด ไม่ทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย

แต่หากเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแล้ว การจัดฟันนั้นก็มีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันที่เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อย แต่วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใส ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่จากสหรัฐอเมริกา ที่ต้องถือว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะการจัดฟันแบบใสนั้น เราสามารถใส่เครื่องมือการจัดฟันได้อย่างสะดวก เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น เป็นเครื่องมือแบบใสที่สามารถมองเห็นได้ยาก ทำให้เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่เครื่องมือแล้ว สามารถมองเห็นได้ยาก ทำให้ยิ้มสวยเป็นธรรมชาติ จึงได้รับความนิยมในหมู่ดารานักแสดง


ซึ่งทางคลินิกเราเคยพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใสไปหลายเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรักษา ข้อดี ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของเรื่องมือการจัดฟันแบบใส ที่ต้องบอกเลยว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากเราดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันไม่ดี ก็อาจจะทำให้ผลการรักษาเกิดการคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะทำให้ผลการรักษาไม่ได้ผลเท่าทีควร ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันแบบใส เพื่อให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ได้ดูแลรักษาเครื่องมืออย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อย่างแรกเลย ถ้าหากเราพูดถึงเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่เครื่องมือเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อให้มีผลการรักษาที่ดี

ต่อมาวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันแบบใส การล้างทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันเป็นประจำทุกวัน ถือเป็นที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยทั้งเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือและการทำความสะอาด ควรแปรงเบา ๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันสะอาด เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันจะรับประทานอาหาร ผู้ควรที่จะถอดเครื่องมือการจัดฟันแบบใสออกก่อน เพื่อที่จะรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ และไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องมือการจัดฟันด้วย เพียงเท่านี้ผู้เข้ารับการจัดฟันก็จะสามารถมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีเครื่องมือที่สะอาด


เมื่อยิ้มจะได้รู้สึกมั่นใจ มีฟันที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ และยังทำให้คนอื่นมองไม่ออกด้วย ว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพของช่องปากและฟัน ทางเรามีโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ทุกคนได้หันมาสนใจการจัดฟันแบบใสเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการมีฟันที่สวยงาม โดยการจัดฟันแบบใสที่คลินิก ราคาเริ่มที่ 49,000 บาท จากปกติ 69,000 บาท สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่ให้คำแนะนำ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างแน่นอน



การดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันใส ให้ขาวใส มั่นใจเวลายิ้ม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7














































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า