แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 8
1
โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย ยิ่งในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น สไตล์การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ เราเริ่มทำงานประจำอยู่กับที่มากขึ้น ไม่ค่อยลุกไปไหน เคลื่อนไหวหรือออกแรงกันน้อยลง นำมาซึ่งความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ หรือไขมันในเลือดสูง ล้วนส่งผลให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบได้ เราจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ไว้ เพื่อประเมินตัวเอง พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกัน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ลดโอกาสเกิดโรค  และรีบไปรักษาได้ทันเมื่อมีสัญญาณอันตรายเกิดขึ้น


เส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน เกิดจากสาเหตุใด?

เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ เกิดจากการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารต่าง ๆ ภายในหลอดเลือด จนเกิดคราบไขมัน (Plaque) เกาะอยู่บริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ ส่งผลให้เส้นเลือดหัวใจตีบแคบลง หรือเกิดการแตกของคราบไขมัน ทำให้เกิดการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด หากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นที่หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ จะทำให้เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจลดลง จนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


อาการของภาวะหัวใจขาดเลือด จากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

อาการที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยที่เส้นเลือดหัวใจตีบ แล้วหัวใจเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด ได้แก่

    รู้สึกเจ็บหน้าอกจนทนไม่ไหว แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก (มักเป็นที่ลิ้นปี่ หน้าอกตรงกลาง หรือ ร้าวไปหน้าอกซ้าย ก็ได้)
    อ่อนเพลียไม่มีแรง เหนื่อยง่าย
    บางรายพบว่ามีอาการใจสั่น เหงื่อแตกร่วมด้วย
    วูบ หมดสติ หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตเฉียบพลัน

หากมีอาการตามที่กล่าวมานี้ให้รีบมาพบแพทย์โดยทันที เพื่อรับการตรวจ


สาเหตุของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

สาเหตุ หรือปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจมานั้นเกิดจาก

    อายุที่มากขึ้น
    ระดับคอเลสเตอรอลสูง ระดับไขมันในเลือดสูง
    โรคเบาหวาน
    โรคความดันโลหิตสูง
    ภาวะอ้วน
    รวมไปถึงการการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
    มีภาวะเครียด หรือใช้ชีวิตภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดเป็นประจำ
    ขาดการออกกำลังกาย


การป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

โรคหลอดเลือดหัวใจสามารถป้องกันได้ จากการควบคุมปัจจัยเสี่ยงในส่วนที่ควบคุมได้ ซึ่งประกอบด้วย พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ได้แก่ การรับประทานอาหาร  การออกกำลังกาย การจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการงดสูบบุหรี่

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือมีระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดสูง หากรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงและห่างไกลจากการเป็นโรคหัวใจได้

สำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ ควรได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อ หาปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ที่อาจซ่อนอยู่ แต่ไม่แสดงอาการ
หากมีความเสี่ยงในครอบครัวหรืออายุที่มากขึ้น ให้มาตรวจคัดกรองเป็นประจำ

ปัจจัยเสี่ยงที่เราไม่อาจควบคุมได้ คือ อายุ พันธุกรรมในครอบครัว สำหรับผู้ชายที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก่อนอายุ 40 ปี และผู้หญิงที่เป็นโรคหัวใจก่อนอายุ 50 ปี อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้

ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือในกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น มีประวัติครอบครัว มีไขมันในเลือดสูง


นักกีฬาก็อาจมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้

หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวนักกีฬาทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิต นำความโศกเศร้าเสียใจในวงการกีฬา

หากใครสนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการตรวจคัดกรองโรคหัวใจ กรณีที่เป็นนักกีฬา สามารถศึกษาได้ที่นี่

VO2 max เครื่องมือวัดความฟิตของร่างกาย ที่เหล่านักออกกำลังกายควรรู้ !


การตรวจวินิจฉัยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

หากผู้ป่วยให้ข้อมูลและรายละเอียดอย่างถูกต้องทั้งประวัติ และอาการที่ปรากฏจะช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้ตรวจร่วมกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiogram (ECG) ตรวจเลือด การตรวจคลื่นสะท้อนสียงของหัวใจ (Echocardiogram) การเดินหรือวิ่งสายพาน(Exercise stress testing) หรือตรวจหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Coronary CT angiography)


การรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

การรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ แบ่งออกได้เป็น 4 ระดับ ประกอบด้วย

ระดับที่ 1 รักษาโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น

    เลิกสูบบุหรี่ จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
    ลดการบริโภคอาหาร หวาน มัน เค็มจัด
    เพิ่มการรับประทานผักสดและผลไม้ที่ไม่หวานจัด
    ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี

ระดับที่ 2 รักษาโดยการใช้ยา ในผู้ที่มีความเสี่ยง (โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน) หรือ ในผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบไม่มากที่ยังไม่จำเป็นต้องทำหัตถการ  ต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ระดับที่ 3 รักษาโดยหัตถการสวนหลอดเลือดหัวใจและหรือใส่ขดลวด (Stent) เข้าไป เพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจตีบให้ทำงานได้เป็นปกติ

ระดับที่ 4 รักษาโดยการผ่าตัด ทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Graft – CABG)


สรุป

เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ (และแนวทางป้องกัน) หากพบว่าตัวเองอาจเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าว ควรศึกษาทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน และแนวทางการรักษา เพื่อเตรียมความพร้อม

เส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้อย่างไร ป้องกันได้หรือไม่? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/252

2
เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส พบได้บ่อยในคนทุกวัย พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบได้ประปรายตลอดปี

เนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว จึงนิยมเรียกว่า โรคตาแดงระบาด ซึ่งมักพบระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคม โดยอาจพบระบาดภายในบ้าน ตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน ที่ทำงาน ค่ายทหาร เป็นต้น

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มไวรัสอะดิโน (adenovirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดย่อย ๆ

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 3 และ 7) ทำให้มีไข้และการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับคอหอย เรียกว่า ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ (pharyngoconjunctival fever) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ ขันน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นต้น) ที่แปดเปื้อนเชื้อ และยังอาจติดต่อแบบเดียวกับคอหอยอักเสบ (ไอ จาม หรือสัมผัสถูกสิ่งคัดหลั่งในช่องปากของผู้ป่วย) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 8, 19 และ 37) ทำให้มีการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับกระจกตา และมีลักษณะระบาดได้รวดเร็ว เรียกว่า เยื่อตาขาวและกระจกตาอักเสบชนิดระบาด (epidemic keratoconjunctivitis/EKC) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ และอาจติดต่อจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน (จากผู้ป่วยที่ลงเล่นน้ำ) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

นอกจากนี้ยังมีไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้ คือ กลุ่มไวรัสพิคอร์นา (picornavirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ ไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 (enterovirus type 70) และไวรัสค็อกแซกกีเอชนิด 24 (coxsackie virus A type 24) ทำให้เยื่อตาขาวอักเสบร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อตาขาว เรียกว่า "Acute hemorrhagic conjunctivitis" ซึ่งพบระบาดได้เช่นกัน ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ มีระยะฟักตัว 1-2 วัน


อาการ

มีอาการตาแดง เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อย อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น

ในรายที่เป็นคอหอยอักเสบร่วมด้วย (ซึ่งพบใน "ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ") จะมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย

ในรายที่มีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย หากเป็นรุนแรงมักมีอาการปวดตาและสายตาพร่ามัว

อาการตาแดงตาอักเสบมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน

ส่วนมากอาการมักจะค่อย ๆ ทุเลาลง และหายขาดภายใน 1-3 สัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ เช่น มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือสายตาพร่ามัว (มองเห็นไม่ชัด) เนื่องจากกระจกตาอักเสบ ซึ่งอาจเป็นนานเป็นสัปดาห์ ๆ ถึงเป็นแรมปี

บางรายอาจมีรอยแผลเป็นที่เยื่อตาขาว หรือการติดกันของเยื่อตาขาวกับลูกตา (symblepharon)

ในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 อาจทำให้เกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน มีอาการแขนขาอ่อนแรงได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก มักพบในคนอายุมากกว่า 20 ปี หลังตาอักเสบ 5 วันถึง 6 สัปดาห์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

สิ่งตรวจพบที่สำคัญ ได้แก่ อาการตาแดง หนังตาบวม ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต ซึ่งจะเริ่มเป็นข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง

บางรายอาจตรวจพบไข้ (38-40 องศาเซลเซียส) คอหอยแดงเล็กน้อย

บางรายอาจพบมีเลือดออกเป็นจุดเล็ก ๆ จุดใหญ่ ๆ หรือเป็นปื้นแดงที่ใต้เยื่อตาขาว

ในรายที่วินิจฉัยไม่ได้แน่ชัด แพทย์อาจนำของเหลวที่ตา (น้ำตา ขี้ตา) ไปตรวจหาเชื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้พาราเซตามอลแก้ปวดลดไข้ ประคบตาด้วยความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดตา เป็นต้น

ถ้ามีอาการเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาวันละ 3-4 ครั้งเพื่อบรรเทาอาการ

ในรายที่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน (ซึ่งพบได้น้อย) แพทย์จะใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ ทุก 2-4 ชั่วโมง

มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ซึ่งจักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์หรือยาต้านไวรัส อาทิ

    ในรายที่มีการอักเสบของเยื่อตาขาวอย่างรุนแรง หรือมีการอักเสบของกระจกตาจนทำให้สายตามัวลงอย่างมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้โรคเริมที่แฝงอยู่กำเริบได้
    ในรายที่ตรวจพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม จักษุแพทย์จะให้ยาหยอดตาที่มีตัวยาต้านไวรัส (เช่น อะไซโคลเวียร์)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ผู้ป่วยจะมีอาการมากอยู่นานไม่เกิน 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาและหายขาดได้ภายใน 1-3 สัปดาห์โดยการรักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัส มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง หรือมีภาวะแทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

เมื่อมั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ให้การรักษาตามอาการ เช่น

- ถ้ามีอาการปวดตาหรือมีไข้ กินพาราเซตามอล*

- ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา วันละ 3-4 ครั้ง

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามตรากตรำงานหนัก หรือออกกำลังหักโหมเกินไป
    งดใช้คอนแท็กต์เลนส์จนกว่าจะหายดี
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา อาจทำให้ติดเชื้อไวรัสที่มือแล้วแพร่ให้คนอื่น และอาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเนื่องจากมือที่ไม่สะอาด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะอาจมีตัวยาที่ไม่ปลอดภัยหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
    เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ผู้ป่วยควรแยกตัวไม่นอนหรืออยู่ใกล้คนอื่น, ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ ร่วมกับผู้อื่น, ควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ (เพื่อกำจัดเชื้อที่อาจติดที่มือ), ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด และควรหยุดเรียนหรือหยุดงาน พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าไปในที่ที่มีคนแออัด และไม่ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการหายดีแล้ว


ควรไปพบแพทย์/กลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาด้วยตนเองแต่แรก
    มีอาการปวดตารุนแรง ขี้ตาแฉะ มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว หรือมีอาการตาพร่ามัว
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง
    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์   
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หายใจลำบาก เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน ถ่ายอุจจาระดำ คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน (ตาเหลือง) จุดแดงจ้ำเขียว เป็นต้น

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ


การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว คอนแทคเลนส์ แว่นตา หมอน แก้วน้ำ จาน ชาม สบู่ ขันน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น) ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา
    ในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ และการเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย และหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีกระจกตาอักเสบร่วมด้วยก็มักจะไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น แผลกระจกตา) แต่อาจเป็นกระจกตาอักเสบแบบเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทย์ให้การรักษาแล้วอาการไม่หายดีใน 3 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดตารุนแรง หรือตาพร่ามัวมากขึ้น ก็ควรปรึกษาจักษุแพทย์

2. เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัสบางชนิด อาจเกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน ทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรง แม้ว่าพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดงระบาด (จากไวรัส) ควรสังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด หากสงสัยควรไปพบแพทย์โดยเร็ว


ข้อมูลโรค: เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

3
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





4
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม

– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



5
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


6
เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi Note 9T (4GB/128GB)
Redmi Note 9T สมาร์ทโฟนระดับกลาง รองรับ 5G หน้าจอ FHD + DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U 5G รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP กล้องหน้าเจาะรูความละเอียด 13MP พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น               เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi Note 9T (4GB/128GB)
   ราคากลาง            7,499 บาท
   จำนวนซิม             2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์            จอสัมผัส
   สี                      Black(Nightfall Black), Purple(Daybreak Purple)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                          ยาว 161.96 x กว้าง 77.25 x หนา 9.05 มม., น้ำหนัก 199 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)          128 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด           microSDXC
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ              ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                      จอสัมผัส ()
   ความละเอียด               6.53 นิ้ว, 395 ppi, 1,080 x 2,340 px
   รายละเอียดอื่น              หน้าจอแสดงผล DotDisplay แบบ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2,340 x 1,080 พิกเซล) อัตราส่วนภาพ 19.5:9 ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5

หน่วยประมวลผล CPU MediaTek Dimensity 800U Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz

หน่วยประมวลผล GPU Mali-G57

หน่วยความจำ RAM 4GB -(LPDDR4X)

หน่วยความจำ ROM 64GB (UFS 2.1) / 128GB (UFS 2.2)

กล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48MP (f/1.79) + เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4) + เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4)

กล้องหน้าความละเอียด 13MP (f/2.25)

แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 18W

ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (48 Mpx), กล้องหน้า (13 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            Auto Focus, Flash, เซนเซอร์รับภาพ

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)          MediaTek Dimensity 800U 5G (7nm), Octa-core (2x2.4 GHz Cortex-A76 & 6x2.0 GHz Cortex-A55)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)  Mali-G57
   หน่วยความจำ (RAM)             4.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             Infrared, USB(Type-C 2.0), Bluetooth, Jack, NFC, Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac), WiFi Direct, USB OTG, A2DP
   ระบบรับส่งข้อความ                 SMS, MMS, EMAIL, PUSH MAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G, Mimo, 5G
   ระบบ GPS                         A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS

มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi Note 9T (4GB/128GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/xiaomi/

7
Toyota Tacoma โมเดลปี 2024 เปิดตัวที่สหรัฐฯ เมื่อกลางปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจของรถคันนี้คือมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด โดยมีการเปิดราคารุ่นน้ำมันเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึงรุ่นไฮบริดที่เปิดราคาเมื่อไม่กี่วันมานี้
 
2024 Toyota Tacoma เปิดตัวด้วยราคา 31,500 ดอลล่าร์หรือราว 1.164 ล้านบาทในรุ่นเครื่องยนต์น้ำมันล้วน และเริ่มที่ 47,795 ดอลล่าร์หรือราว 1.766 ล้านบาทสำหรับรุ่นไฮบริด

 
Toyota Tacoma เป็นกระบะขนาดกลาง เทียบเท่ากับ Hilux Revo ในบ้านเรา โดยในรุ่นใหม่จะมีหน้าตาแบบเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Tundra ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาชมสเปคและหน้าตาของรถคันนี้ดีกว่าว่าจะน่าสนใจแค่ไหน
 
รุ่นย่อย 2024 Toyota Tacoma
 
SR
SR5
TRD Sport
TRD Off-Road
Limited
Trailhunter
TRD Pro

 
ดีไซน์ด้านหน้าแบบดุดัน
 
Tacoma ใหม่ถูกออกแบบและพัฒนาในสหรัฐอเมริกา ภายใต้ธีม “Badass Adventure Machine” หากอธิบายง่ายก็คงเป็น Tundra ย่อส่วนนั่นเอง
 
แต่สิ่งที่ Tacoma ใหม่ต่างกับกระบะรุ่นใหญ่มีเพียงกระจังหน้าที่เล็กกว่าและไฟหน้าที่เพรียวบางกว่าเท่านั้น นอกจากนั้นในด้านดีไซน์ก็ยังเป็นกระบะที่ดุดันสไตล์อเมริกันเช่นเดียวกัน
 
Tacoma ใหม่ยังมาพร้อมหลังคาที่พร้อมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงสปอยเลอร์บริเวณกระจกหลังของรถ หลังคาของรถยังมี “ห่วงยึดในตัว” ทำให้สามารถติดตั้งแร็คหลังคาได้ง่ายขึ้น กันชนท้ายก็เข้ากับรถได้ดี
 
สำหรับ Tacoma ใหม่นั้นมาพร้อมรุ่นย่อยที่หลากหลาย และ Sheldon Brown หัวหน้าวิศวกรพัฒนา Tacoma กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะให้การแยกคุณลักษณะระหว่างรุ่นย่อยให้ดียิ่งขึ้น”
 
ออพชั่นภายนอกให้มาอย่างครบครัน โดยมาพร้อมไฟหน้า-หลัง LED ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ล้ออัลลอยเริ่มที่ล้อกระทะ 17 นิ้ว ไปจนถึงล้ออัลลอย 18 นิ้ว ในรุ่นย่อยต่าง ๆ ก็มีออพชั่นที่ต่างกัน เช่น รุ่น TRD PreRunner จะมีความสูงที่มากขึ้นพร้อยาง All Terrain, รุ่น TRD Off-Road มาพร้อมยางออฟโรด 33 นิ้ว ส่วนรุ่น Limited จะตกแต่งแบบหรูหราด้วยโครเมียม และมี “ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์”
 
หนึ่งในสาเหตุที่ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง เนื่องจาก Toyota จะขายเริ่มที่รุ่น XtraCab ซึ่งเป็นรุ่น 2 ประตูมีแคป และรุ่น 4 ประตู Crew Cab ยังมาพร้อมกระบะให้เลือกทั้ง 5 และ 6 ฟุต
 
นอกจากนี้ Tacoma ใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง ฝาท้ายกระบะอลูมิเนียมพร้อมระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันการหนีบอีกด้วย รวมถึงมีออพชันอื่น ๆ ที่ต่างจากกระบะในบ้านเรา
 

ภายในได้จากรุ่นพี่
 
สำหรับห้องโดยสารของ Tacoma ใหม่นั้นมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นก่อนและรุ่นพี่อย่าง Tundra เจเนอเรชั่นล่าสุด
 
เมื่อเข้ามาข้างในเราจะเห็นพวงมาลัยดีไซน์ใหม่พร้อมมาตรวัดดิจิทัล เริ่มที่ขนาด 7 นิ้ว และในรุ่นที่สูงขึ้นจะเป็น 12.3 นิ้ว หน้าจอ infotainment ตรงกลางจะมีที่ 8 นิ้ว และ 14 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย พร้อมระบบเสียง Toyota Audio Multimedia สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Carplay และ Android auto รวมถึงมีออพชั่นน่าสนใจอย่าง แท่นชาร์จไร้สาย และช่อง USB-C มาให้ด้วย
 
นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว แดชบอร์ดของ Tacoma ใหม่ยังมีที่เก็บของมากขึ้น เริ่มที่บริเวณผู้โดยสารด้านหน้าที่มีที่วางโทรศัพท์ แผงประตูและคอนโซลกลางตกแต่งมีแผงพลาสติกที่ดูทนทาน โดย Toyota ตั้งเป้าหมายให้รถกระบะมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น โดยพื้นที่เก็บของใต้เบาะหลังจะมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า และเบาะหลังยังสามารถพับลงเพื่อบรรทุกสัมภาระชิ้นใหญ่ได้
 
นอกจากนี้ สัมผัสของวัสดุในห้องโดยสารจะเป็นยาง ๆ เสียส่วนใหญ่ ที่เก็บของด้านคนขับจะมี QR code ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ซึ่งสามารถเรียนรู้ “ดีไซน์การการพิมพ์ 3 มิติอุปกรณ์เสริมด้วยตัวเอง เช่น โคมไฟ เครื่องมืออเนกประสงค์ และชุดเครื่องมือต่าง ๆ”
 
ออพชั่นอื่น ๆ ที่โดดเด่น ได้แก่ ระบบ Head-up Display เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบอุ่น/เป่าลม กระจกมองหลังฉายภาพจากกล้องมองหลังได้ และมูนรูฟ
 
สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ในรุ่น Limited จะมาพร้อมระบบเสียง JBL ลำโพง 10 ตำแหน่ง พร้อมลำโพง Bluetooth ที่มีช่องเก็บในคอนโซลรถโดยเฉพาะ และเอาออกมาใช้งานนอกรถได้ เช่น ในงานปาร์ตี้ ตั้งแคมป์ต่าง ๆ  โดยสามารถใช้งานโหมดบลูทูธได้สูงสุด 6 ชม. และกันน้ำได้ลึกถึง 3 ฟุต (914 มม.) เลยทีเดียว
 

ครั้งแรกที่ Tacoma มีเครื่องยนต์ไฮบริด
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ i-FORCE เครื่องยนต์สันดาปล้วน และ i-FORCE MAX เครื่องยนต์ไฮบริด
 
ในรุ่นเริ่มต้นจะเริ่มที่เครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 228 แรงม้า แรงบิด 329 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ในรุ่นถัดมาจะเป็นเครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
หากจับคู่เกียร์อัตโนมัติเรี่ยวแรงจะต่างกันเล็กน้อยด้วยเครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 278 แรงม้า แรงบิด 429 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
 
สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดนั้นมาพร้อมระบบ Rev Matching อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันเครื่องดับ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ Toyota ระบุว่าเป็นของใหม่หมด
 
สิ่งที่น่าสนใจคือ Tacoma เจนเนอเรชั่นนี้มาพร้อมเครื่องไฮบริด i-FORCE MAX แล้ว
 
เครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE MAX ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จับคู่กับแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ขนาด 1.87 kWh จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดสามารถรีดกำลังสูงสุดที่ 326 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร
 
สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ถือว่าดีกว่าเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรเดิมอย่างมากในแง่ของกำลัง โดยเครื่องยนต์ i-FORCE MAX จะมีในรุ่นย่อย Tacoma TRD Pro และ Trailhunter เป็นมาตรฐาน ส่วนในรุ่น TRD Sport, TRD Off-Road, และ Limited ก็สามารถเลือกเป็นออพชั่นได้เช่นกัน

 
ระบบขับเคลื่อนของ Tacoma ใหม่จะให้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมเฟืองท้ายลิมิเตดสลิปมาให้เป็นมาตรฐาน ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อม transfer case 2 สปีด, active traction control เพิ่มขึ้นมา
 
ในรุ่นย่อย Limited พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE MAX จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time และ center locking differential ส่วนในรุ่นสายลุยอย่าง TRD PreRunner, TRD Off-Road, TRD Pro, และ Trailhunter จะมีล็อคเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ด้วย
 

แพลทฟอร์ม TNGA-F สำหรับสายลุย
 
แม้ Toyota Tacoma ใหม่จะเป็นปิ๊คอัพขนาดกลางเหมือน Hilux Revo แต่ก็ไม่ได้ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มเดียวกัน โดย Tacoma ใหม่อยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA-F ซึ่งใช้ร่วมกับรุ่นพี่อย่าง Tundra และ Sequoia
 
แพลทฟอร์มนี้ประกอบด้วยแชสซีแบบขั้นบันไดที่มีการเชื่อมด้วยเลเซอร์ มีคานเสริมความแข็งแกร่ง และคานหน้าแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับกระปุกพวงมาลัย ที่นอกจากจะเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยเรื่องการขับขี่ให้ดีขึ้นด้วย
 
สำหรับช่วงล่างด้านหลังของรถ ในรุ่น SR, SR5 XtraCab, และ TRD PreRunner จะเป็นแหนบแบบทั่วไป ส่วนในรุ่นที่สูงขึ้นไปจะมีช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงค์ ที่ช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้นและขับขี่ได้สะดวกสบายขึ้น
 
Toyota กล่าวว่า ช่วงล่างของรถ “ถูกปรับแต่งมาโดยเฉพาะแต่ละรุ่น” เช่น ในรุ่น TRD Sport จะใช้โช้คอัพแบบสปอร์ตที่ตอบสนองได้ดีกว่า ส่วนรุ่น TRD Off-Road มาพร้อมโช้คอัพน้ำมันโมโนทูปจาก Bilstein “เพื่อการเดินทางของล้อที่ไกลขึ้นและการกระจายความร้อนที่มากขึ้น” และในรุ่น Limited จะเป็นช่วงล่างแบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension ที่ปรับตามสภาพถนน
 
Tacoma ใหม่ทุกรุ่นมาพร้อมดิสก์เบรค 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยดรัมเบรคหลังถูกยกเลิกไปตั้งแต่ยุค 80 แล้วสำหรับรถรุ่นนี้ รวมถึงใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ “ผสมผสานฟีเจอร์ความสะดวกสบายและความปลอดภัยต่าง ๆ เพิ่มเติม”

 
สำหรับช่วงล่างด้านหน้ามาพร้อมเหล็กกันโคลงที่แยกอิสระซ้าย-ขวาในรุ่นย่อยสายลุย และสามารถแยกเหล็กกันโคลงให้เป็นอิสระด้วยปุ่มในรถเพียงปุ่มเดียว โดย Toyota กล่าวว่าสิ่งนี้จะช่วยข้อต่อต่าง ๆ ถึง 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
 
สำหรับระบบควบคุมการออฟโรดนั้นมาพร้อมระบบ Downhill Assist Control, Multi-Terrain Monitor และ Multi-Terrain Select ที่ทำงานได้ทั้งในโหมด 4WD High และ 4WD Low รวมถึงฟังก์ชัน CRAWL Control ปรับปรุงใหม่ที่ “เงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
 
 
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น เช่น
 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติทุกย่านความเร็ว Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control (Adaptive Cruise Control)
ระบบช่วยให้อยู่ในเลน Lane Tracing Assist (Lane Centering)
ระบบป้องกันการชนพร้อมตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection
ระบบไฟหน้า Automatic High Beam
ระบบ Road Sign Assist
ระบบช่วยขับขี่ Proactive Driving Assist
 
 
ลากจูงได้สูงสุด 6,500 ปอนด์
 
Toyota Tacoma ใหม่มาพร้อมแรงลากจูงมหาศาล ในรุ่นเครื่องยนต์ i-FORCE พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีความสามารถในการลากจูงถึง 6,500 ปอนด์หรือ 2,948 กก. เลยทีเดียว ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE Max มีความสามารถในการลากจูงที่ 6,000 ปอนด์หรือ 2,722 กก.
 
นอกจากนี้ Tacoma ยังใส่เทคโนโลยีสำหรับการลากจูงมาให้อย่างครบครัน เช่น Trailer Brake Controller และ Trailer Back Up Guidance รวมถึงระบบ Straight Path Assist ที่ช่วยให้รถที่กำลังลากจูงสามารถถอยเป็นเส้นตรงได้อย่างง่ายดาย
 
ส่วนน้ำหนักบรรทุก ใน Tacoma TRD Off-Road มีความสามารถในการบรรทุกสูงสุดที่ 775 กก.

 
หาก Hilux Revo หน้าตาแบบนี้ก็คงจะดี
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมหน้าตาที่ดุดันมากขึ้น พร้อมแพลทฟอร์ม TNGA และเครื่องยนต์บล็อคใหม่ขุมพลังไฮบริดที่ให้ความประหยัดมากขึ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจแบบนี้ใน Hilux Revo บ้านเรา ก็คงจะดีไม่น้อย


motor expo: พาชม 2024 Toyota Tacoma จากแดนมะกัน หรือนี่จะเป็นต้นแบบของ Hilux Revo ขุมพลังไฮบริด? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorexpo/

8
มีประโยชน์หลายประการที่จะช่วยให้ระยะเวลาใน การจัดฟัน เร็วขึ้นประมาณ 2-4 เท่า

ขั้นตอนการจัดฟันด้วยเลเซอร์

ขั้นตอนแรกเหมือนกับการจัดฟันทั่วๆ ไป มีการประเมินและวางแผนการรักษา ต้องตรวจ คนไข้ว่าเหมาะกับการจัดฟันหรือไม่และสามารถใช้เครื่องเลเซอร์กระตุ้นการจัดฟันได้หรือไม่ โดยการตรวจสภาพเหงือกและฟัน จากนั้นจึงพิมพ์ฟัน เอ๊กซเรย์ และติดเครื่องมือจัดฟัน

จากนั้นใช้เลเซอร์กระตุ้นฟันเพื่อให้ฟันเคลื่อนเร็วก่อนที่จะทำการติดเครื่องมือจัดฟัน  หลังจากนั้นจะใช้เลเซอร์ช่วยกระตุ้นทุกครั้งที่ทันตแพทย์นัดหมายมาเปลี่ยนลวดจัดฟัน ซึ่งหมายถึงว่า ต้องมาพบทันตแพทย์ถี่ขึ้นเนื่องจากฟันเคลื่อนตัวเร็ว


ข้อดีของเลเซอร์จัดฟัน

    ปรับแต่งเหงือกให้มีความสูงต่ำได้
    ช่วยให้ฟันเลื่อนตัวได้เร็วกว่าปกติ 2-4 เท่า
    ช่วยให้คนที่แทบจัดฟันแบบธรรมดาไม่ได้ (อาจต้องผ่าตัด) ให้สามารถจัดฟันได้ตามปกติโดยไม่ต้องผ่าตัด
    สามารถบังคับฟันในตำแหน่งที่ต้องการให้เดินเร็วขึ้นได้ หรือดึงเข้าไปมากขึ้นในคนไข้ที่มีฟันยื่นมากๆ
    ช่วยกระตุ้นให้แผลในปากหายเร็ว เช่น แผลฟันคุดก่อนการจัดฟัน หรือแผลจากการถอนฟัน
    ช่วยกระตุ้นให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งระหว่างการจัดฟันและหลังการจัดฟัน
    เลเซอร์จัดฟันจะช่วยให้ฟันมีความคงตัวเร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน
    สามารถนำมาใช้ในการฟอกสีฟัน รักษาโรคเหงือกและรักษาอาการอักเสบระหว่างการจัดฟัน
    แสงเลเซอร์สามารถฆ่าเชื้อในร่องเหงือกเพื่อช่วยลดอาการบวมในกรณีที่มีการอักเสบฉับพลันหรือบวม


ความปลอดภัยของเลเซอร์จัดฟัน

เลเซอร์ที่ใช้ในการจัดฟันส่วนใหญ่เป็นเลเซอร์พลังงานต่ำ ไม่ได้เป็นเลเซอร์ พลังงานสูงที่ใช้ตัดหรือทำลายล้างแบบเลเซอร์ตัดเหงือกหรือตัดไฝ จึงไม่ส่งผลให้คนไข้เจ็บปวดมากขึ้นและแทบไม่มีความเสียวฟัน

( ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล )


การใช้เลเซอร์ร่วมกับการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

9
การจัดฟัน ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก คือการรักษาที่จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการจัดฟันให้มีความมั่นใจ มีรอยยิ้มที่สดใสอีกด้วย ซึ่งการจัดฟันนั้น มีด้วยหลากหลายรูปแบบ โดยทันตแพทย์จะทำการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งการจัดฟันด้วยที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยก็คือ การจัดฟันที่มีเครื่องมือแบบติดแน่น


ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบนี้ เป็นการจัดฟันแบบนี้เป็นแบบมาตรฐานที่นิยมจัดกันทั่วไป และต้องเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน และการจัดฟันแบบนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดฟันชนิด รวมไปถึงสีสันของยางที่มีให้เลือกใช้ได้หลากหลายอีกด้วย และในปัจจุบันนี้การจัดฟันก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้การจัดฟันมีหลากหลายชนิดมากยิ่งถึง แม้กระทั่งการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 12-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ฟันน้ำนมหลุดหมดแล้ว และมีฟันแท้ขึ้น และยังเป็นช่วงที่ขากรรไกรกำลังเจริญเติบโตด้วย

ซึ่งในวันนี้ทางคลินิกเราจะมารพูดถึงข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งเด็กในวัยนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลาของท่านให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงแม้ว่าการจัดฟันในเด็ก จะยังไม่มีความจำเป็นมากนัก แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจรวจฟันกับทันตแพทย์ หรือถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของรูปร่างของฟันก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้าไปปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดที่อาจจะสงสัยในเรื่องของการจัดฟันในเด็กว่ามีข้อดีอย่างไร

ทางคลินิกก็จะมาตอบในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่า เมื่อเด็กเข้ารับการจัดฟันแล้วจะส่งผลดีอย่างไรต่อสุขภาพช่องปาและฟันของเด็กบ้าง ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบไหน หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่เรียงตัวสวยขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงาม ช่วยให้เด็กมีความสดใสสมวัย ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสบฟันที่ดีขึ้น สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม สำหรับในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ก็จะทำให้เด็กมีสุขภาพปากและฟันดีขึ้น การทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ส่งผลทำให้ฟันผุน้อยลง และจุดเด่นของการจัดฟันในเด็กก็คือ ช่วยปรับโครงหน้าให้เข้าที่มากยิ่งขึ้น นี่ก็คือข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ที่จะช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย เป็นที่ประทับใจต่อผู้พบเห็น

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟัน ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดของการจัดฟันในเด็กได้ที่คลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก และยังมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ และอยากแนะนำ ปลูกฝังให้เด็กๆทุกคนใส่ใจ ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาช่องปากในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เผยข้อดี ของการจัดฟันเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

10
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนช่วงวันหยุดยาวนี้ ขอให้เตรียมรถและคนให้พร้อมก่อนเดินทาง เน้นตรวจเช็คสภาพรถทุกส่วน ผู้ขับไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อม 5 วิธีสร้างความตื่นตัวขณะขับรถทางไกล

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาววันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือขับรถท่องเที่ยวและทำบุญตามต่างจังหวัด กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมพร้อม 2 อย่างก่อนการเดินทางไกล เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ได้แก่

    เตรียมสภาพรถ ตรวจเช็คลมยาง ไฟส่องสว่างและไฟเลี้ยว ตรวจระบบเบรกให้มีความสมบูรณ์และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ตรวจสอบน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่ เติมน้ำมันเครื่องให้พร้อม และควรมีเครื่องมือประจำรถและอะไหล่ต่างๆสำรองติดรถเอาไว้

    เตรียมคนขับ โดยพักผ่อนให้เพียงพอ หากขับในระยะทางไกลมาก ควรมีการแวะพักเพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เป็นระยะ เพื่อป้องกันอาการง่วงนอน และต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหรือทานยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น

 

ที่สำคัญผู้ขับต้องสร้างความตื่นตัวให้กับตัวเองด้วย 5 วิธีง่ายๆ ดังนี้

    เปิดหน้าต่างเป็นระยะเพื่อการถ่ายเทอากาศ

    สวมแว่นตากันแดดหรือใช้ที่บังแดดเพื่อลดแสงจ้าหรือแสงสะท้อนที่ทำให้มองเห็นไม่ถนัดขณะขับรถในช่วงที่แสงแดดแรง

    หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน

    ช่วงรถติดหรือติดไฟแดงสามารถลดอาการเมื่อยล้าของสายตาและกล้ามเนื้อได้ โดยมองไปยังต้นไม้สีเขียวหรือหลับตาพักสายตาสักครู่ และนวดบริเวณต้นคอและบ่า 2 ข้าง

    ควรหยุดพักบ่อยๆ จิบน้ำหรือหาเครื่องดื่มมาช่วยเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นเพื่อให้ร่างกายสดชื่น ตื่นตัวตลอดเวลา

นอกจากนี้ อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งผู้ขับขี่และโดยสาร ควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งเช่นกัน และขับรถไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญหากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร 1669 ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ จะเกิดความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บมากขึ้น หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422



การแก้ง่วน เคล็ดลับเตรียมร่างกาย ก่อนขับรถทางไกล "ไม่ง่วง" อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

11
ความง่วง เป็นตัวก่อกวนชั้นดีเลยว่ามั้ยล่ะ เวลาเรียนหรือคิดงานอยู่ ถ้าจู่ๆ เกิดง่วงขึ้นมานี่ หมดอารมณ์กันเลยทีเดียว วิธีแก้ที่ดีและใครๆ มักจะบอกก็คือ นอนให้เร็วขึ่นสิ แต่สำหรับคนที่มีโปรเจคต้องทำหรือมีงานที่เขาเร่งมาก็คงนอนเร็วไม่ได้แล้วล่ะ ดังนั้นเราจึงนำวิธีแก้ง่วง เพื่อเราจะได้ทำงานต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพกันเลย


1. ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย

หากเริ่มรู้สึกง่วง ลองลุกจากโต๊ะ เดินไปรอบๆ บิดขี้เกียจ ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย อาจจะไปคุยกับเพื่อน หรือเข้าห้องน้ำ อะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ให้ได้ขยับตัวสักหน่อย เพื่อเป็นการกระตุ้นร่างกาย ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ แล้วง่วงต่อคงไม่ได้งานแน่ๆ แต่อย่าลุกไปนานจนเจ้านายมองค้อนเอาล่ะ ลุกขึ้นทุกๆ 2-3 ชั่วโมง แล้วใช้เวลายืดเส้นยืดสาย 2-3 นาที ก็เพียงพอแล้วล่ะ


2. ฟังเพลงจังหวะมันส์ๆ

ถ้าเราเกิดง่วงขึ้นมาแล้วนั่งทำงานนิ่งๆ เฉยๆ ต่อไปแบบนั้น มีแต่จะทรมานเปล่า หาหูฟังใส่สบายสักอัน พร้อมกับเพลงที่จังหวะมันส์ๆ คึกคัก หรือเพลงโปรด มาฟังก็ช่วยได้มากเลยนะ เพราะคลื่นความถี่จะเข้าไปกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราให้ตื่นตัวมากขึ้น ไล่ความง่วงได้ดีเลยล่ะ แต่ถ้าใครทำงาน หรืออ่านหนังสือแบบที่ต้องการสมาธิสูงๆ อาจจะเลือกฟังเพลงเป็นช่วงๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวเป็นพักๆ ก็ได้นะ



3. ดื่มน้ำเยอะๆ

น้ำ มีบทบาทสำคัญกับชีวิตของเรามากจริงๆ ในที่นี้การได้ดื่มน้ำเยอะๆ สามารถช่วยให้หายง่วงได้นะ เพราะน้ำช่วยให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ร่างกายเรามีน้ำกว่า 70% หากเกิดอาการขาดน้ำขึ้นมา ย่อมส่งผลให้อ่อนเพลียขึ้นได้เช่นกัน ใครง่วงหนักจะจัดชา กาแฟ ก็ไม่ขัดศรัทธา แต่อย่าดื่มบ่อยจะดีกว่า

 

4. ทานผลไม้เปรี้ยวๆ หวานๆ ก็ไม่เลวนะ

ผลไม้เปรี้ยวๆ หวานๆ อย่างส้ม สับปะรด มะม่วง มะยมอะไรพวกนี้ น่าจะหาซื้อได้ไม่ยาก เห็นมีขายอยู่แทบทุกที่ ถ้าเกิดง่วงขึ้นมาล่ะก็ ลองลงไปซื้อมากินดูได้นะ ช่วยให้หายง่วงได้ดีเลยล่ะ ทั้งสดชื่น ตาสว่าง แถมความอร่อยเข้าไปด้วย เท่านี้ก็พร้อมลุยงานต่อกันเลย

 

5. งีบหลับสักนิด

ถ้าง่วงทำไงดี? ก็หลับสิ  อาจจะฟังดูกวนๆ แต่มันคือเรื่องจริง ในที่นี้เราขอใช้คำว่า “ งีบหลับ ” มีงานวิจัยออกมาว่า การที่ได้งีบหลับสัก 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนสักนิด พอตื่นขึ้นมา คุณจะรู้สึกสดชื่นและสมองปลอดโปร่งมากเลยล่ะ หากอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากนั่งเรียนอยู่ในห้อง นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ข้อนี้อาจจะต้องข้ามไปนะจ๊ะ

 

อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุของความง่วงมักมาจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นหากจะแก้ที่ต้นเหตุ ก็ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ นอนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และจะดีมากหากคุณสามารถตื่นมาออกกำลังกาย และทานอาหารแต่เช้าได้ รับรองว่าคุณจะสดชื่นแจ่มใสไปตลอดทั้งวันแน่นอน

วิธีแก้ง่วงระหว่างวัน ฉบับวัยเรียน-วัยทำงาน  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

12
แอปเปิล APPLE iPhone15 (6GB/128GB)
รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            แอปเปิล APPLE iPhone15 (6GB/128GB)
   ราคากลาง          32,900 บาท
   จำนวนซิม           1 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์           จอสัมผัส
   สี                      Black, Blue, Green, Yellow, Pink

   ความถี่-เครือข่าย
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                      ยาว 147.6 x กว้าง 71.6 x หนา 7.8 มม., น้ำหนัก 171 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)      128 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด        -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ           N/A

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                      จอสัมผัส (OLED Super Retina XDR)
   ความละเอียด               6.1 นิ้ว, 460 ppi, 1,179 x 2,556 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                  กล้องหลัง (48 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                               -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           A16 Bionic 6?core
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Apple GPU 5?core
   หน่วยความจำ (RAM)               6.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                   -
   ระบบรับส่งข้อความ                       -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต               3G, WiFi, 4G


[มือถือ Iphone แอปเปิล APPLE iPhone15 (6GB/128GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/apple/

13
การจัดฟันช่วยทำให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน การสบฟันที่ผิดปกติ ทำให้มีโครงสร้างใบหน้าที่ดี อายุที่เหมาะสมในการจัดฟัน คือช่วงวัยรุ่น 10-14 ปี เพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโต


การจัดฟันเป็นรูปแบบของการดูแลสุขภาพช่องปาก

เพื่อป้องกันและรักษาความผิดปกติของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น โดยใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ไม่สวยงาม และไม่เป็นระเบียบ ให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดีดูสวยงามขึ้น ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้จะช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของสุขภาพช่องปากและฟัน

การจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน แต่หากอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี และปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับบริการ


ทันตแพทย์เท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจว่าควรจัดฟันหรือไม่ หากพบความผิดปกติดังต่อไปนี้

    ฟันบนหรือฟันล่างยื่นออกมามาก
    ฟันห่างมีช่องว่างระหว่างฟัน เนื่องจากการหลุดของฟันหรือฟันที่ยังขึ้นไม่เต็มฟันที่ขึ้นมาไม่เป็นระเบียบจนเกซ้อนกัน
    ฟันบนไม่สามารถสบได้พอดีกับฟันล่างหรือเมื่อสบฟันแล้วมีช่องว่างระหว่างฟันบนกับฟันล่าง ทั้งนี้ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันประมาณ 1 ปีครึ่ง – 3 ปี ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันว่ามีมากน้อยเพียงใด



การจัดฟันกับคลินิกเดนต้าจอย

สำหรับขั้นตอนการจัดฟันทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาร่วมกับผู้รับบริการโดยตรวจสภาพช่องปาก ถ่ายภาพเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกร วิเคราะห์วางแผนขั้นตอนการรักษาตามลำดับ เช่น ถอนฟัน อุดฟัน การพิมพ์แบบฟันและติดเครื่องมือจัดฟันหรือใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส

ในช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บบ้างแต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งทางคลินิกทันตกรรมเดนต้าจอยให้บริการจัดฟันใน 2 รูปแบบ คือ

    การจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันใสแบบถอดได้
    การจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นทั้งแบบเครื่องมืออยู่ด้านนอกและเครื่องมืออยู่ด้านใน

ภายหลังการจัดฟันควรดูแลตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือจัดฟัน โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับผู้ที่จัดฟันโดยเฉพาะ ทำความสะอาดภายหลังรับประทานอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน รักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ให้หลุดหักหรือบิดเบี้ยว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียวรวมทั้งของหวาน ระมัดระวังเมื่อเล่นกีฬาที่อาจเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรง รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบทันตแพทย์ตามนัดหมาย




ทำไมต้องจัดฟัน และควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไหร่? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

14
การเข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่า เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็มมักจะพบเจอกับคนที่สวมใส่เหล็กจัดฟัน เพราะนอกจากการจัดฟันจะช่วยในเรื่องของเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว การเข้ารับการจัดฟันยังถือว่าเป็นเทรนยอดฮิตสำหรับวัยรุ่นด้วย แต่การเข้ารับการจัดฟันนั้น ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารที่ชื่นชอบได้ หรือต้องเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น เพราะอาหารบางอย่างส่งผลต่อเหล็กจัดฟันหรือเครื่องมือการจัดฟัน เพราะจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันหลุดได้ขณะรับประทานอาหาร

และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การทำความสะอาดช่องปากและฟัน เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันบางคน อาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมีเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นติดอยู่ภายในช่องปาก ซึ่งอาจจะทำให้ทำความสะอาดได้ยากกว่าปกติ และไม่ทั่วถึง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการจัดฟันไม่ว่าจะรูปแบบใด ก็ควรศึกษารายละเอียดให้ดี หรือปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากจะพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แต่ก็ยังมีความสงสัยในเรื่องของการปฏิบัติตัวระหว่างการจัดฟันในเด็ก ว่าควรที่จะปฏิบัติตัวอย่างไร และอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในระหว่างการจัดฟันในเด้ก ว่า การจัดฟันนั้น ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

 
ซึ่งวันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงค่าใช้จ่ายในการจัดฟันในเด็ก ซึ่งหลายคนอยากจะทราบว่า การเข้ารับการจัดฟันนั้น แพงหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันนั้น เป็นการรักษาที่ค่อนข้างจะใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของเด็กแต่ละคนด้วย ยกตัวอย่างเช่น เด็กมีฟันผุ หรือมีปัญหาอื่นๆ ทันตแพทย์ก็จะทำการรักษาก่อนเพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาในระหว่างการจัดฟัน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแน่นอนว่า หลายคนทราบกันดีว่า สามารถแบ่งจ่ายได้ แต่การลงทุนในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน แน่นอนว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อช่องปากและฟันอย่างแน่นอน ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน อย่างที่เราบอกไปตั้งแต่ต้นว่า เป็นการรักษาที่ค่อนข้างใช้เวลานาน ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล

ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงไม่มีราคาตายตัว แต่ก็สามารถแบ่งจ่ายได้ ถึงแม้ว่าการจัดฟันในเด็ก อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง แต่บอกเลยว่า ผลการรักษาจะเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน ทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตของเด็กได้ด้วย ดังนั้น ในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก บุคลิกภาพของเด็ก รอยยิ้มความมั่นใจของเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะลงทุน เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทันตแพทย์ที่คอยให้คำปรึกษา ซึ่งทันตแพทย์ของเรามีประสบการณ์ในด้นการจัดฟันมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรม นอกจากนี้ เรายังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับแนวทางของตัวเอง เพื่อที่จะได้รับบริการอย่างไม่กังวล เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนด้วย



การจัดฟันเด็ก แพงไหม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

15
รับออกแบบบ้าน
รับออกแบบบ้าน ตามความต้องการ
และงบประมาณ ของเจ้าของบ้าน
ฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์สวย สร้างได้จริง
ปรับแบบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

รับสร้างบ้าน
รับสร้างบ้าน และควบคุมงานโดยทีมสถาปนิก-วิศวกร
ที่มีใบอนุญาต ทีมงานประสบการณ์สูง
เราเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมรับประกันความพึงพอใจ
บ้านสวย แข็งแรง ทนทาน เสร็จตรงตามเวลา
งบประมาณไม่บานปลาย
กว่า 20 ปี กับงานบริการ

บริษัทรับสร้างบ้าน และออกแบบบ้าน รับประกันคุณภาพมาตรฐานบ้านทุกหลัง


BEST BUILD DESIGN AND CONSTRUCTION
บริษัท เบสท์ บิลด์ ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่)
148/2 ซอยปราโมทย์ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. 0997829415


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
Page FB : https://www.facebook.com/AiForRealEstate
เว็บไซด์ : https://luxuryhomesdesigns.com/
เบอร์โทร : 099-782-9415


หน้า: [1] 2 3 ... 8














































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า