15 วัดสวย ภาคใต้ บรรยากาศดี ไหว้พระ ทำบุญ เสริมดวงให้อิ่มใจ

[siritidaphon]

15 วัดสวย ภาคใต้ บรรยากาศดี ไหว้พระ ทำบุญ เสริมดวงให้อิ่มใจ

จุดเด่นของ ภาคใต้ นอกจาก ที่เที่ยวทะเล และ ที่เที่ยวธรรมชาติ แล้ว ก็ยังมีวัดวาอารามต่างๆ ที่มีความงดงาม และโดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งวันนี้ เราได้รวบรวม 15 วัดสวย ภาคใต้ บรรยากาศดี เพื่อให้ทุกคนได้ไปไหว้พระทำบุญ และเสริมดวงให้อิ่มใจกันค่ะ จะมีที่ไหนบ้าง ตามเรามาเลย~

ไหว้พระ วัดสวย ภาคใต้ ทำบุญ เสริมดวง

1. วัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลอง

หากไปเที่ยวภูเก็ตแล้ว ก็ต้องไปไหว้พระทำบุญที่ วัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลอง วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ตที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามเป็นอย่างมาก นับเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ใด แต่ชื่อของวัดฉลองก็ปรากฏอยู่ในบันทึกของรัชกาลที่ 3 โดยต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนชื่อวัดฉลองเป็น "วัดไชยธาราราม" ค่ะ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้คือ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง หรือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี พระเกจิชื่อดังที่มีศาสตร์วิชาในด้านการปรุงยาสมุนไพร และรักษาโรค ชาวภูเก็ตจึงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญคือ ต้องไม่พลาดไปกราบไหว้ พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541-2544 ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญต่างๆ โดยชั้นสูงสุดเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองอนุราธปุระ ที่เคยเป็นเมืองหลวงเดิมของศรีลังกาค่ะ

    ที่อยู่ : 70 หมู่ 6 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.


2. วัดบางโทง

ถ้าถามถึงวัดที่มีความงดงามทั้งด้านสถาปัตยกรรม และบรรยากาศรอบๆ ขอยกให้ วัดบางโทง หรือ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในนั้นเลยค่ะ โดดเด่นด้วย องค์พระมหาธาตุเจดีย์ สีทองอร่าม มีความสูงกว่า 95 เมตร ตกแต่งด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบพุทธคยา ทำให้ที่นี่ถูกยกย่องให้เป็น พระมหาธาตุเจดีย์ที่สูงที่สุดในภาคใต้ นอกจากนี้ ภายในวัดบางโทงยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่สมควรไปกราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนา และ รูปเหมือนหลวงปู่ทวด ส่วนบรรยากาศรอบๆ ก็ร่มรื่น ประกอบไปด้วย สระน้ำ สวนหย่อม ต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงา และทิวทัศน์ของภูเขาที่รายล้อม ทำบุญเสร็จก็ออกมาเดินเล่นชิลๆ ได้เลย

    ที่อยู่ : 46 หมู่ 3 ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.


3. วัดถ้ำเสือ

ถ้าอยากทำบุญพร้อมดื่มด่ำกับวิวสวยอลังการล่ะก็ ต้องไม่พลาด วัดถ้ำเสือ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่มากนัก แต่กลับรายล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้นานาชนิด บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับพุทธศาสนิกชนค่ะ ส่วนด้านบนยอดเขานั้นจะเป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุเจดีย์ และ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ เพื่อให้เราได้ขึ้นไปกราบไหว้สักการะ รวมถึงชมวิวสวยได้ถึง 360 องศา ไม่เพียงเท่านี้ ทางวัดยังมี จุดชมวิววัดถ้ำเสือ ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร ซึ่งในระหว่างเดือนกันยายน-มกราคม เราจะได้เห็นทะเลหมอกสีขาวปกคลุมไปตามแนวเขา งดงามตระการตามากๆ

    ที่อยู่ : ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.


4. วัดท่าไทร

วัดท่าไทร หรือ วัดเทสก์ธรรมนาวา เป็นวัดริมทะเลที่อยู่บริเวณ หาดชายทะเลท่าไทร จังหวัดพังงา โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ อุโบสถทรงไทย สร้างด้วยไม้สักแกะสลักเป็นลวดลายวิจิตรงดงาม ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากพระอุโบสถของ พระอรัญวาสี ที่ หนองคาย นั่นเองค่ะ ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่แกะสลักขึ้นมาจากหินหยกขาวด้วยศิลปะแบบอินเดีย ขนาดหน้าตักจะกว้าง 55 นิ้ว สูง 2 เมตร ช่างเป็นพุทธศิลป์ที่มีความวิจิตรอ่อนช้อยเป็นอย่างมาก

     เมื่อมองออกไปจากตัววัด ก็จะเห็นวิวสวยๆ ของชายหาดที่ทอดยาวไปกับท้องทะเล ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน  บริเวณชายหาดแห่งนี้จะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่อยู่เป็นประจำค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดจองสถานที่


5. อุทยานธรรมเขานาในหลวง

ชมทิวทัศน์สุดมหัศจรรย์ของ เจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี และพระบรมสารีริกธาตุ ที่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร ทำให้สถานที่แห่งนี้เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และความงามของสถาปัตยกรรม ท่ามกลางทัศนียภาพอันน่าทึ่งของขุนเขา และทะเลหมอกรอบด้าน และด้วยความเงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ จึงทำให้ที่เหมาะกับการจัดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อฝึกจิตใจให้สงบร่มเย็นค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 บ้านเขานาใน ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน


6. วัดปลายแหลม

วัดปลายแหลม หรือ วัดแหลมสุวรรณาราม เป็นหนึ่งในวัดสวยแห่งเกาะสมุยที่ตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมของเกาะสมุย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2423 ผู้คนมักนิยมมากราบไหว้ เจ้าแม่กวนอิมพันมือ สีขาวองค์ใหญ่ ที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร โดดเด่นอยู่กลางทะเลสาบ และ พระสังกัจจายน์ ความสูงประมาณ 20 เมตร ประดิษฐานอยู่กลางน้ำให้ได้สักการะ เชื่อว่าหากได้กราบไหว้ขอพรท่านก็จะพบกับความสุข เจริญรุ่งเรือง และร่ำรวยนั่นเองค่ะ ไหว้พระเสร็จเราก็สามารถไปเดินเล่นถ่ายรูป และให้อาหารปลาชิลๆ ได้ตามอัธยาศัย

    ที่อยู่ : ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย 0-7742-1421-2


7. วัดบ้านหงาว

วัดบ้านหงาว วัดดังของจังหวัดระนองที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ภูเขาหญ้า และ น้ำตกหงาว ส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนจะมากราบไหว้ พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์ พระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นจากแร่ดีบุกกว่า 3 ตันทีเลยทีเดียว ส่วนด้านหน้าก็จะมีบันไดนาคตกแต่งด้วยศิลปะวิจิตรอ่อนช้อยทอดยาวไปตามสองข้างของบันได ไหว้พระ และชมสถาปัตยกรรมสวยๆ เสร็จแล้วก็อย่าลืมไปที่ วังมัจฉา ซึ่งมีปลาหลากหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ปลาบึก ปลาจาระเม็ดน้ำจืด ปลาดุกยักษ์ และอื่นๆ มากมาย สามารถไปเดินชม และให้อาหารปลาได้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : 63/2 หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : 0-7781-2142


8. วัดสุวรรณคีรี

วัดสุวรรณคีรี หรือ วัดปากจั่น วัดสวยอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง สถานที่ประดิษฐาน พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ สีทองอร่ามที่ถอดแบบจาก เจดีย์ชเวดากอง เมียนมา ตั้งอยู่บนฐานกว้าง 29 เมตร ยอดสูง 108 ฟุต ออกแบบโดย หลวงพี่ปัญญา ปัญญาธโร พระภิกษุชาวพม่าที่มาจำพรรษาและร่ำเรียนอยู่ที่วัดแห่งนี้ โดยประสงค์ให้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชาแก่พุทธศาสนิกชนชาวระนองนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามให้พวกเราไปกราบไหว้ และชมวิวสวยๆ กันด้วย

    ที่อยู่ : ตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.


9. วัดพระบรมธาตุสวี

วัดพระบรมธาตุสวี นับเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชุมพรเลยก็ว่าได้ค่ะ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมธาตุสวี ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี โดยรูปสถาปัตยกรรมนั้นมีลักษณะเดียวกับ พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ที่คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2459 องค์พระธาตุพังลงมา จึงเกิดการบูรณะครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้มีลักษณะรูปทรงดังที่เราเห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีส่วน ศาลพระเสื้อเมือง ด้านในมี เจ้าพ่อเสื้อเมือง ผู้ดูแลปกปักรักษาพระบรมธาตุสวี และ พิพิธภัณฑ์ วัดพระบรมธาตุสวี แหล่งรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดภายในวัดเพื่อเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ที่ 1 5 ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
    โทร : 08-1087-6539


10. วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร

วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดพระธาตุ นับเป็นโบราณสถานสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของ จังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนคร ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 854 โดยเจ้าชายทนทกุมาร และพระนางเหมชาลา ชาวสิงหล เพื่อเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 1719 นั้น หลังจากที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นมา ก็ได้สร้างเจดีย์องค์ใหม่ขึ้น เป็นเจดีย์ทรงลงกา สูง 55 เมตร จากฐานบัวคว่ำบัวหงายจนถึงปลียอดนั้นมีความสูง 6.8 เมตร และหุ้มด้วยทองคำเนื้อสิบ

     เมื่อถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา ก็จะมี ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เพื่อนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันวิสาขบูชา และ มาฆบูชา เป็นประจำทุกปีจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนครศรีธรรมราชไปแล้วค่ะ

    ที่อยู่ : 435 ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.


11. อุทยานพระพุทธศาสนา หรือ วัดนิรนาม

อุทยานพระพุทธศาสนา ทุ่งใหญ่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดนิรนาม นับเป็นสถานที่สุด Unseen ที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวนครศรีธรรมราช แม้ว่าบางส่วนจะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่กลับมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยมีไฮไลท์เป็นองค์พระพุทธรูปหลายองค์ประดิษฐานเรียงรายท่ามกลางพื่นที่โล่ง เป็นทั้งจุดชมอาทิตย์ตกดิน และดวงดาวในยามค่ำคืนอันงดงามเกินบรรยาย

    ที่อยู่ : ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน


12. วัดพระเจดีย์งาม

วัดพระเจดีย์งาม หรือ วัดเจดีย์งาม เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดสงขลา ที่สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย โดยมีโบราณสถานสำคัญเป็น เจดีย์พระมหาธาตุ ซึ่งคาดว่าจะสร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 สังเกตได้จากการก่อสร้างด้วยอิฐปะการังทั้งองค์ เรียงอิฐแบบไม่สอปูน และไม่มีกรอบ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวเป็นเทคนิคของช่างศรีวิชัย ฐานเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่องค์ปัจจุบันที่เห็นกันนั้นได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้กลายเป็นเจดีย์แบบทรงลังกาแทนค่ะ นับเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

    ที่อยู่ : ตำบลบ่อตรุ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.


13. วัดพุทธาธิวาส

เที่ยวเบตง แวะไปไหว้ พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ พระธาตุเจดีย์แบบศรีวิชัยประยุกต์ที่ประดิษฐานอยู่ใน วัดพุทธาธิวาส กันค่ะ นับเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่งดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ภายในวัดเอง ก็เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีส่วนของ พระวิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และ วิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ  อีกด้วย

    ที่อยู่ : ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.


14. วัดช้างให้ หรือ วัดราษฎร์บูรณาราม

วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม หรือ วัดช้างให้ วัดเก่าแก่ของจังหวัดปัตตานีที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี โดดเด่นด้วย พระธาตุเจดีย์วัดช้างให้ เจดีย์ 5 ยอดที่มีความสูงถึง 59.09 เมตร และมีฉัตรทองคำหนัก 100 บาท เป็นฉัตร 7 ชั้น ประดับทับทิมประดิษฐานอยู่บนยอดเจดีย์สวยงาม ส่วนภายในองค์พระธาตุเจดีย์บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในปัตตานี นอกจากนี้ ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐาน หลวงปู่ทวด องค์จำลองเท่าองค์จริง และ อ่างน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ที่สามารถปะพรมเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ


    ที่อยู่ : อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.
    โทร : 09-3363-9198


15. ถ้ำพระเขาชัยสน

ถ้ำพระเขาชัยสน เป็นส่วนหนึ่งของ วัดถ้ำพระ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งจังหวัดพัทลุง ซึ่งการจะขึ้นไปบนถ้ำนั้น จะต้องเดินขึ้นบันไดไปหลายร้อยขั้น โดยจะแบ่งออกเป็นชั้นต่างๆ ห้องแรกนั้นจะมี บ่อน้ำ ที่เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำไปต้มยาเพื่อรักษาอาการป่วยได้ ถัดจากห้องแรกเข้าไปลึกหน่อย จะเจอกับเสาไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงาม พร้อมกับภาพเขียนตามผนังถ้ำที่บอกเล่าถึงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า เมื่อเดินขึ้นไปอีก ก็จะพบกับ พระวิมุตตะโร ซึ่งเป็น พระนอน ยาวประมาณ 20 เมตร อายุราวๆ 20 ปี ประดิษฐานอยู่ รวมถึง พระโพธิสัตว์ และพระพุทธรูปอื่นๆ ให้มากราบไหว้ขอพรกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน