แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2
1
โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่คนไทย มีแนวโน้มจะป่วยด้วยโรคนี้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ เราจึงมีบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ อาหารสุขภาพ อาหารต้านความดัน มาฝากกัน

DASH Diet บางคนก็เคยได้ยิน และหลายคนก็ไม่รู้จัก มันคือหลักการบริโภคอาหาร ที่ส่งผลช่วยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง สามารถที่จะควบคุมอาการของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น การเลือกที่จะบริโภคอาหาร เพื่อต้านความดัน และลดความดันโลหิตสูง ถือว่า เป็นแนวทางธรรมชาติบำบัด ที่น่าสนใจ และเป็นแนวทางในการป้องกัน และดูแลตนเอง ของผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง และช่วยให้คนที่ไม่ป่วย ได้ป้องกันไม่ให้ตัวเองนั้นป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง นั่นเอง

DASH Diet หรือ Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet ถือว่าเป็นหลักการบริโภคอาหาร ที่ช่วยต้านความดันโลหิตสูง จึงเป็นทางเลือกในการช่วยดูแลสุขภาพ ในระยะยาว แนวทางคือ การลดปริมาณโซเดียมในมื้ออาหารให้น้อยลง รวมถึงการรับประทานอาหารให้หลากหลายชนิด โดยเน้นอาหารที่มีโภชนาการสูง มีสรรพคุณในการลดความดันโลหิตได้

จากการศึกษาวิจัย พบว่าแนวทางในการบริโภคอาหารแบบ DASH Diet จะช่วยให้สามารถลดภาวะความดันโลหิตสูงลงได้ภายใน 2 สัปดาห์ และยังได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ด้วย ซึ่งรวมถึงการช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิขึ้นได้ อาทิเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

แนวทางการบริโภคอาหารในแบบ DASH Diet มีหลักการดังนี้

    เลือกรับประทานอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ และอาหารที่ทำจากนมไขมันต่ำ
    จะต้องละเว้นจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และไขมันทรานส์ในปริมาณมาก
    จะต้องเน้นรับประทานอาหารที่เป็นธัญพืช ไม่ขัดสี ถั่ว สัตว์ปีก ปลา และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
    ที่สำคัญคือ จะต้องจำกัดปริมาณการบริโภคโซเดียม ขนมหวาน เครื่องดื่มผสมน้ำตาล และเนื้อแดง
    สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคอาหารที่มีคาเฟอีน เพราะแม้ว่า DASH Diet จะไม่ได้ห้ามบริโภคคาเฟอีน และผลกระทบของคาเฟอีนต่อภาวะความดันโลหิตได้
    จะต้องจำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินพอดี มีส่วนทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้

การบริโภคอาหารแบบ DASH Diet นั้น จะต้องรับประทานอาหาร ในปริมาณที่กำหนดในแต่ละมื้อ และจะต้องรับประทานอาหารหลากหลายชนิด ซึ่งปริมาณที่ต้องรับประทาน จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ในแต่ละวันด้วย

ทั้งนี้ต้องจำกัดการบริโภคโซเดียมให้เหลือ 2,300 มิลลิกรัม/วัน และอาจลดลงจนเหลือ 1,500 มิลลิกรัม/วัน จึงจะช่วยลดความดันโลหิตลงได้


DASH Diet Menu แนะนำ ได้แก่

    ผลไม้ 4-5 หน่วยบริโภค/วัน
    ผัก 4-5 หน่วย/วัน
    ธัญพืช 7-8 หน่วย/วัน
    เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และปลา ไม่เกิน 2 หน่วย/วัน
    อาหารที่มีไขมันต่ำ หรือผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ 2-3 หน่วย/วัน
    ถั่ว ถั่วแห้ง และเมล็ดพันธุ์พืช 4-5 หน่วย/สัปดาห์
    ไขมันและน้ำมัน 2-3 หน่วย/วัน
    จำกัดการรับประทานขนมหวาน ไม่ควรให้เกิน 5 หน่วย/สัปดาห์

ตัวอย่างปริมาณอาหารต่อ 1 หน่วยบริโภค

    พาสต้าหรือข้าวครึ่งถ้วย
    ขนมปัง 1 แผ่น
    ผักดิบประมาณ 1 ถ้วย และผลไม้อย่างกล้วย แอปเปิ้ล หรือมะม่วงประมาณ 1 ผลขนาดกลาง
    ผักปรุงสุก หรือผลไม้ครึ่งถ้วย
    นมไขมันต่ำประมาณ 230 มิลลิลิตร
    น้ำมัน 1 ช้อนชา
    เนื้อสัตว์ปรุงสุกประมาณ 65-80 กรัม
    เต้าหู้ประมาณ 85 กรัม

ที่สำคัญ ผู้ป่วย จะต้องปรึกษาแพทย์ หากจะเริ่มโปรแกรมของ DASH Diet เพื่อให้แพทย์ปรับอาหาร ได้ตามความเหมาะสม กับผู้ป่วย ในแต่ละคน นั่นเอง


Dash Diet อาหารสุขภาพ ป้องกันโรคความดันสูง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

2
ปัญหาอย่างหนึ่งที่บ่าวสาวเจอกันบ่อยๆ หลังจากตัดสินใจเลือก โต๊ะจีน มาเลี้ยงแขกในงานแต่งงานคือ ควรเลือกเมนูไหนดีที่จะเป็นเมนูอร่อย ให้ความมงคลและแขกกินง่าย เพราะแต่ละเซ็ตเมนูก็มีตั้ง 8 เมนูเป็นอย่างต่ำ เราจึงขอเปิดโต๊ะจีนพาคุณว่าที่บ่าวสาวส่องอาหารมงคลบนโต๊ะจีนกันเลยค่า


หมู ไก่ เป็ด กุ้ง ปลา อาหารมงคลต้องมี

ตามความเชื่อของจีนอาหารมงคลมีมากมาย แต่ที่นิยมตลอดกาลคือ หมู ไก่ กุ้ง เป็ด ปลา และอาหารเส้น ซึ่งแต่ละอย่างก็มีความหมายดีๆ ทั้งนั้น

เริ่มต้นที่ หมู มีความหมายสื่อถึงความมั่งคั่ง ความสมบูรณ์พูนสุขกินดีอยู่ดี และถ้าเป็นหมูหันก็จะเพิ่มเติมเรื่องความบริสุทธ์และสดใสของชีวิตคู่

กุ้ง โดยมากแล้วมักจัดเป็นกุ้งมังกร ซึ่งก็ตามชื่อเลยคร้า สื่อถึง มังกร สัตว์เทพในตำนานของชาวจีน ความมีอำนาจ ลาภ ยศ อีกทั้งยังสื่อถึงเงินทองไหลมาเทมาด้วยนะ เมนูกุ้งยอดฮิตคือ สลัดกุ้งทอง ยำตะไคร้กุ้งสด กุ้งอบวุ้นเส้น เป็นต้น

ไก่ มีมังกรแล้ว จะปราศจากหงส์ได้อย่างไร ไก่ คือตัวแทนของหงส์ หมายถึงความก้าวหน้า มีกุ้งและไก่อยู่คู่กันในชุดอาหารก็จะทำให้ชีวิตคู่เกื้อหนุนกัน ไก่มักนำมาทำเป็นอาหารอย่าง ซุปไก่ตุ๋นยาจีน ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์

เป็ด เป็นตัวแทนของสัตว์ปีก เป็นมงคลของชีวิต ทำให้ชีวิตมีแต่สันติ ร่มเย็น เมนูเป็ดๆคือ เป็ดย่างอบน้ำผึ้ง เป็ดปักกิ่ง เป็ดพะโล้สับ

ปลา เป็นอีกอาหารที่มีความมงคลในเรื่องเงินๆ ทองๆ ทำให้มีเงินเหลือกินเหลือใช้ เมนูยอดฮิตแบบอมตะนิรันดร์กาลมีทั้งนึ่งซีอิ๋ว นึ่งมะนาว และนึ่งบ๊วย

อาหารเส้น เส้นที่ยาวสื่อถึงการใช้ชีวิตคู่ที่ยืนยาว ยิ่งยาวยิ่งดี เพราะงั้นแล้วเวลากินจึงมีเคล็ดเล็กๆว่า ห้ามกัดขาดต้องกินทั้งเส้น และเมนูที่นิยมคือ หมีผัด โกยซีหมี่ หมี่ฮ่องกง เป็นต้น


เลขมงคล บนโต๊ะอาหาร

อาหารบนโต๊ะจีนมักจะถูกจัดออกมา 8 เมนูไม่รวมของหวาน ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า เลขแปด (bā) พ้องกับคำว่า “โชคลาภ” (fā) ในภาษาจีน จึงถือกันว่าจัดมาแปดอย่าง คนจัดงานก็จะมีแต่โชคลาภ แต่บางครั้งอาหารก็มี 8-10 อย่างก็ได้

แต่ถ้าไม่ไหวจะจัดให้ถึง 8 ก็อย่าจัดอาหารไว้ 4 อย่าง เนื่องจากว่าเลขสี่ (sì) ดันไปพ้องกับคำว่าตาย (sĭ) เสียอย่างนั้น

หลังจากรู้ชนิดอาหารและจำนวนมงคลแล้ว ที่นี้ก็มาดูการจัดกลุ่มอาหารสำหรับเสิร์ฟบนโต๊ะจีนกันบ้างดีกว่า อาหารบนโต๊ะจีนสามารถรวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 6 กลุ่มค่ะ

กลุ่มที่ 1 คือ ออเดิร์ฟ อาหารรองท้องเรียกน้ำย่อยให้ออกมาอาละวาดรอกวาดล้างอาหารทั้งหมดในกระเพาะ

กลุ่มที่ 2 คือ ซุปน้ำข้น ที่ก็หนีไม่พ้น 2 ซุปบำรุงร่างกายอย่าง ซุปหูฉลาม และ ซุปกระเพาะปลา

กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มกับข้าวจากเนื้อสัตว์มงคลทั้งหลาย กลุ่มนี้จะมีอยู่สักประมาณ 4 – 6 รายการ แล้วแต่บ่าวสาวเลย

กลุ่มที่ 4 คือ ซุปใส จัดมาเพื่อล้างปาก ดับความเลี่ยน อย่างพวก ซุปไก่ตุ๋นยาจีน

กลุ่มที่ 5 คือ เมนูอิ่ม เป็นเมนูปิดท้ายของอาหารคาว ไม่ว่าจะเป็น ข้าว หรืออาหารเส้น ที่เมนูอิ่มมาอยู่ลำดับหลังสุดก็เนื่องมาจากความเชื่อของชาวจีนที่จะต้องเลี้ยงดูแขกอย่างดี จึงจัดอาหารดีๆมาก่อน และส่งท้ายด้วยเมนูหนักๆสำหรับแขกที่ยังไม่อิ่ม

สุดท้ายกลุ่มที่ 6 ด้วยกลุ่มของหวานที่จะทำให้ชีวิตคู่หวานไปยาวนาน ปราศจากความขมขื่น


จัดเลี้ยงนอกสถานที่: รู้ไว้ก่อนสั่ง..สารพัดเมนูอาหารมงคลบน โต๊ะจีน ที่บ่าวสาวควรรู้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

3
วันนี้เรามาอัพเดทข้อมูลข่าวสารจากผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนย้ายขนส่ง เช่นเดียวกันที่เรามองว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการทุกท่านอย่างแน่นอน เรามาดูว่า รถรับจ้างขนของกรุงเทพ กันเลยนะคะ ขนส่ง ผู้นำด้านการบริการ รถรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เราให้การบริการ รับจ้างขนของ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น งานบริการที่ครบ จบในที่เดียว เน้นงานที่ คุณภาพแต่ราคาไม่แพง รถรับจ้างของเราในแต่ละคัน ต่างเป็นรถรับจ้างที่สภาพดีใหม่ เพราะด้วยว่าการรับจ้างขนของ จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะต้องมีความพร้อม

ทั้งรถ และพนักงานขับ ดังนั้นเราจึงต้องเน้นสองสิ่งนี้ ให้ดีเยี่ยม และเกิดปัญหาน้อยที่สุด ซึ่ง รถรับจ้างในกรุงเทพและปริมณฑล ของเรา ต่างให้บริการ ที่หลากหลายประเภท เช่น รถกระบะรับจ้างเขตกรุงเทพ จะมีให้บริการ ทั้งกระบะตอนเดียว กระบะแคป แบบตู้ทึบ และแบบคอกสูง มีผ้าใบคลุม รถ6ล้อรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีรถที่มีขนาดที่หลากหลายเช่นกัน คือขนาดเล็ก ยาว 5.5 เมตร ขนาดกลาง ยาว 6.5 เมตร ขนาดใหญ่ยาว 7.2 เมตร ก็จะมีให้เลือกทั้ง แบบคอกสูงมีผ้าใบคลุม และแบบเป็นตู้ทึบ ส่วนใหญ่ลักษณะงานของรถ 2 ประเภทนี้ ก็จะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าโรงงาน ในรูปของกล่อง บรรจุภัณฑ์ ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายเครื่องจักร หรือแม้กระทั่ง สินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือ งานไซด์งงานก่อสร้าง รถสิบล้อรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ก็จะมีทั้งแบบคอกสูงและตู้ทึบ งานที่ให้บริการก็มีหลากหลายเช่นกันไม่แตกต่างจากรถ 6 ล้อรับจ้างเลย

ซึ่งสามารถขนย้ายสินค้าได้น้ำหนักสูงสุดถึง 15 ตัน บางครั้งอาจจะขนย้าย พวกปุ๋ยเคมี วัสดุก่อสร้าง ปูน เหล็ก อาหารสัตว์ เป็นต้น รถเฮี๊ยบรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ขนย้ายเครื่องจักร ยกต้นไม้ ยกแบริเออร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น รถเทลเลอร์รับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงาน ที่ขนย้ายสินค้าขนาดที่ใหญ่มากและ มีความยาว จึงต้องใช้ทีมงานที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการช่วยขนย้าย ทุกงานที่กล่าวมานี้ ขนส่งเราให้บริการมาแล้วทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี งานบริการรับจ้างขนของ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ของเราลูกค้าต่างให้การยอมรับ และชื่นชอบที่เข้ามาใช้บริการรถรับจ้างของเรา เพราะ งานที่ขนย้ายกับเรา สินค้าของลูกค้าไม่เคยมีปัญหา หาย ชำรุด แตกพัง พร้อมกับพนักงานผู้ให้บริการ พูดจาสุภาพ ดีทุกคนจึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างกรุงเทพ ของเราอย่างมากมาย หากท่านต้องการใช้บริการ รถรับจ้างขนของกรุงเทพ และปริมณฑลของเราท่านสามารถโทรเข้ามาติดต่อสอบถามกับเราได้ทุกวันและเวลา เราเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทีเบอร์


บริการที่ครบครัน จัดการจบในที่เดียว ราคาเป็นกันเอง

หากท่านต้องการ รถรับจ้างขนของราคาถูก ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ท่านสามารถโทรจอง หรือล็อคคิว รถรับจ้าง เที่ยวราคาถูกนี้ได้ ซึ่งท่านจะต้องจองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2-3 วันเพื่อให้เราจัดคิวรถรับจ้างขนของราคาถูกนี้ให้กับท่าน ที่สำคัญ ท่านต้องรีบจอง เพราะราคาเที่ยวรถนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่ท่านก็ ฝากข้อความ ระบุความต้องการที่จะใช้รถ รับจ้างเที่ยวนี้ จะย้ายจากไหนไปไหนขนย้ายสินค้าเป็นอะไร และ และวันที่ต้องการขนย้าย ส่งข้อมูลมาที่นี่

จุดรับบริการรถรับจ้างเขตกรุงเทพ และปริมณฑล ประจำแต่ละจุด

รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพระนคร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดุสิต
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหนองจอก
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางรัก
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางเขน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกะปิ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตปทุมวัน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพระโขนง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตมีนบุรี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตลาดกระบัง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตยานนาวา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสัมพันธวงศ์
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตธนบุรี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพญาไทย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกอกใหญ่
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตห้วยขวาง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองสาน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตตลิ่งชัน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกอกน้อย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางขุนเทียน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตภาษีเจริญ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหนองแขม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตราษฎร์บูรณะ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางพลัด
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดินแดง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบึงกุ่ม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสาธร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางซื่อ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตจตุจักร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางคอแหลม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตประเวศ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองเตย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสวนหลวง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตจอมทอง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดอนเมือง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตราชเทวี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตลาดพร้าว
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตวัฒนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหลักสี่
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสายไหม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคันนายาว
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสะพานสูง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตวังทองหลาง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองสามวา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตทวีวัฒนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตทุ่งครุ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางบอน


รถรับจ้างขนของกรุงเทพ รถรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รับจ้างขนของราคาถูกและดี อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/2

4
เรารวบรวมคำถามที่พบบ่อยจากการที่ใช้บริการรถรับจ้างขนของ ทุกชนิดประเภท จากงาน ขนย้ายบ้าน รับจ้างย้ายบ้าน รับจ้างย้ายหอ ขนย้ายคอนโด รับจ้างขนย้ายเครื่องจักและรถขนของอื่นๆ เช่น รถกระบะรับจ้าง รถ6ล้อรับจ้าง รถ10ล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง ในทุกเขตพื้นที่ โดยเราได้เก็บข้อมูลที่สุดที่เราได้รวบรวมความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างขนของ ทุกประเภทไว้ด้วยกัน มีอะไรบ้างมาดูกันคะ

1. คำถาม : รถขนของของคุณ จอดอยู่ที่ไหน ใกล้เรามั้ย?
ตอบ : รถของเราให้บริการลูกค้าในทุกจังหวัด รถรับจ้างของเราจะรับงานวิ่งทั่วประเทศ มีรถที่วิ่งข้ามจังหวัด สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปแต่ละจังหวัด จึงทำให้ทุกจังหวัดของเรามีรถจอดประจำทุกจุด พร้อมกับทีมงานรถรับจ้างประจำจังหวัดด้วย จึงทำให้ค่าบริการของเราถูกกว่าที่อื่นๆ เพราะเราใช้รถที่อยู่ใกล้พื้นที่ของลูกค้าที่จะขนย้าย

2. คำถาม : หนูจะย้ายบ้านคะ ของไม่เยอะมาก ใช้รถอะไรดีคะ?
ตอบ : ทางเราจะสอบถามก่อนคะว่า มีอะไรบ้าง เช่น มี ตู้เสื้อผ้ากี่ใบ ทีวีกี่เครื่อง เตียงนอนกี่ชุด ตู้เย็นกี่ตัว มีของจุกจิกเยอะมั้ย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การย้ายบ้านส่วนใหญ่จะใช้ รถรับจ้างหกล้อ ขึ้นไปเพราะของจะเยอะ แต่ก็มีแบบกล้ำกึ่งคะ คือของมีไม่เยอะจริงๆอาจะใช้ รถ 4ล้อกลาง ก็พอ ซึ่งลูกค้าก็จะประหยัดค่าขนส่งลงไปอีกหน่อย ซึ่งรถเราเองก็มี รถรับจ้าง ทุกประเภทนะคะ เช่น รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮียบรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง เป็นต้น

3. คำถาม : หนูจะย้ายของคะ แต่ไม่มีคนช่วยยก เป็นผู้หญิงคนเดียวยกไม่ไหวคะ มีบริการคนยกสินค้ามั้ยคะ?
ตอบ : มีคะ ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยคะ เพราะเรามีทีมงานยกสินค้าสแตนด์บายไว้รอบริการลูกค้าตลอดอยู่แล้ว เพราะเราต้องการให้บริการ รับจ้างขนของ ที่ให้บริการที่ครอบคลุมทุกอย่าง ไม่ให้ลูกค้าต้องคิดมากถ้าไม่มีคนช่วยยก ส่วนราคาก็ตกลงกันได้คะ หากลูกค้าต้องการคนยกจำนวนมาก และหากต้องขนย้ายใกล้กับไกล ราคาค่าคนยกก็จะแตกต่างกันนิดหน่อยคะยิ่งหากต้องเดินทางข้ามวันราคาคนยกก็จะขยับมาอีกนิดแต่รับรองว่าถูกกว่าและปลอดภัยกว่าที่ลูกค้าจะไปจ้าง คนยกของจากข้างนอกแน่นอน

4. คำถาม : อยู่ในเขตชั้นในของกรุงเทพ คะไม่อยากให้รถติดเวลา รถเข้ามาขนของตอน ตี 4 ได้มั้ยคะ?ตอบ : ได้คะ จะเวลาไหนก็ได้ แต่ต้องแจ้งเราก่อนวันขนจริงนะคะ เพราะรถเราแต่ละคัน จะมีคิวว่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทุกวัน หากต้องการขนเช้า เราก็จะจัดรถเข้าไปให้ (เฉพาะรถตั้งแต่ 6ล้อขึ้นไป)

5. คำถาม : หนูโอเคราคาคะ ขอจองรถเลยนะคะแล้วหนูต้องทำยังไงต่อคะ?
ตอบ : หากลูกค้าตกลงราคาค่าขนส่งแล้ว ทางฝ่ายดูแลลูกค้า จะให้ลูกค้ามัดจำรถที่จะให้บริการคะ ซึ่งมัดจำเริ่มต้นที่ 500 บาท หลังจากให้บริการเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถชำระเงินส่วนที่เหลือให้กับคนขับรถ หรือจะโอนค่าบริการส่วนที่เหลือเข้ามาที่เราได้คะ

6. คำถาม : หนูอยากติดรถไปกับของได้มั้ยคะ?
ตอบ : ได้เลยจ้า ยินดีมากคะ ลูกค้านั่งด้านหน้าไปกับคนขับรถได้เลยไม่มีปัญหา

7. คำถาม : หนูขอโทษคะ คือจะเปลี่ยนแปลงวันขนย้ายคะ ทำได้มั้ยคะ?
ตอบ : ได้คะ ลูกค้าสามารถโทรเข้ามาแจ้งวันขนย้ายใหม่ให้กับเรา ซึ่งสามารถย้ายเร็วขึ้นหรือย้ายเลื่อนออกไปได้คะ แต่ต้องแจ้งกับเราล่วงหน้าอย่างน้อย 2วันนะคะเพื่อที่เราจะได้วางแผนจัดคิวรถให้ท่านใหม่อีกครั้ง

8. คำถาม : ต้องการใช้บริการ รถรับจ้างขนของ คะคิดราคายังไงคะ?
ตอบ : สิ่งแรกเลยคะว่าลูกค้าต้องการขนอะไร น้ำหนักเท่าไหร่จากไหนไปไหน วันที่ที่ต้องการขนย้าย เวลาที่ลูกค้าสะดวกในการขนย้าย เพราะการคำนวณราคาค่าขนส่งเราจะยึดอยู่ที่ ระยะทางในการขนส่งเป็นหลัก คิดตามเรท ส่วนในเรื่องของน้ำหนักที่สอบถามเป็นเพราะว่า รถบรรทุกแต่ละชนิด รับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน ส่วนวันและเวลานั้น ไม่ค่อยกังวลคะ เพราะเรามีรถรับจ้างคอยให้บริการลูกค้าจำนวนมาก

9. คำถาม : หนูต้องการคนช่วยแพ็คของ มีบริการแพ็คสินค้าให้ได้หรือไม่?
ตอบ : มีคะ แต่ต้องเป็นสินค้าที่ไม่ต้องใช้เทคนิค หรือความสามารถเฉพาะในการจัดการนะคะ และการบริการนี้สามารถจ้างคนขับช่วยแพ็คได้คะ หรือต้องการคนเพิ่มก็ต้องแจ้งล่วงหน้านะคะ

10. คำถาม : หนูต้องการให้ไปขึ้นของ มากกว่า1จุดคะ รับงานมั้ยคะ?
ตอบ : รับคะ ไม่ว่าลูกค้าจะขึ้นของกี่จุด เราก็รับหมดคะ หรือต้องการจะไปลงอีกกี่จุด ก็สามารถแจ้งเราได้เลยในวันที่โทรมาสอบถามราคา เพราะทางเราจะดูว่า แต่ละจุดอยู่ห่างไกลมากมั้ย อยู่ในเขตที่เราเข้าไปรับของได้มั้ย ซอยแคบมั้ย ปริมาณสินค้าใส่หมดหรือไม่ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เราจะได้สอบถาม ด้านราคาก็คุยกันได้คะ จะคิดพิเศษให้คะ ไม่แพงอย่างแน่นอน

เราจะรวบรวมคำถามที่ลูกค้าสอบถามมาในแต่ละครั้ง ซึ่งแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป และเราจะอัพเดทคำถามใหม่ๆให้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาอ่านได้ทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อให้งานลูกค้าราบรื่นไปได้ด้วยดี คำถามไหนที่ลูกค้าต้องการนอกเหนือจากนี้ ทางฝ่ายดูแลลูกค้าของเรา จะพยายามปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ลูกค้าร้องขอมา เพื่อให้ลูกค้าพอใจและประทับใจที่สุดคะ


รถรับจ้างขนของกรุงเทพ รวบรวมคำถามที่พบบ่อย จากลูกค้ารถรับจ้างขนของ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/2

5

ริดสีดวงทวาร เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำที่มีอยู่ตามธรรมชาติของคนทั่วไปในบริเวณปลายลำไส้ใหญ่ (ไส้ตรง) และทวารหนักเกิดการบวม และโป่งพอง เป็นก้อน เรียกว่า "หัวริดสีดวง" แล้วมีการปริแตกของผนังหลอดเลือดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ ทำให้มีเลือดออกเป็นครั้งคราว

ริดสีดวงทวารมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่

1. ริดสีดวงภายนอก (external hemorrhoid) เกิดขึ้นตรงปากทวารหนัก จากที่หลอดเลือดใต้ผิวหนังเกิดการโป่งพอง ซึ่งมองเห็นจากภายนอกและสามารถคลำได้

2. ริดสีดวงภายใน (internal hemorrhoid) เกิดตรงบริเวณที่อยู่ลึกขึ้นไปในทวารหนัก จากที่หลอดเลือดบริเวณนั้นเกิดการโป่งพอง ซึ่งมักมองไม่เห็นจากภายนอกและคลำไม่ได้ จะตรวจพบเมื่อใช้กล้องส่องตรวจ หรือพบในระยะที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนัก

ริดสีดวงภายในแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ได้แก่

    ระยะที่ 1 หัวริดสีดวงหลบอยู่ภายใน ไม่ยื่นออกมานอกทวารหนัก อาจมีเพียงอาการเลือดออกสด ๆ ขณะถ่ายอุจจาระ
    ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และเลื่อนกลับเข้าไปได้เองเมื่อหยุดเบ่งถ่าย หรือหลังถ่ายอุจจาระเสร็จ
    ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และไม่เลื่อนกลับเข้าไปได้เองหลังถ่ายอุจจาระ ต้องใช้มือดันกลับเข้าไป
    ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงยื่นย้อยออกมานอกทวารหนักตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ และอาจรู้สึกปวด

ริดสีดวงทวาร อาจพบเป็นเพียงหัวเดียวหรือหลายหัวก็ได้ และอาจเป็นริดสีดวงทวารภายนอกร่วมกับริดสีดวงทวารภายในก็ได้

โรคนี้พบได้บ่อยในคนทั่วไป พบเป็นสาเหตุอันดับแรก ๆ ของอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด และเมื่อยิ่งมีอายุมากขึ้นจะยิ่งพบได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบได้บ่อยในคนอายุมากกว่า 50 ปี เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเริ่มอ่อนแอและมีการยืดตัว

โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรงหรืออันตราย แต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง น่ารำคาญ หรือทำให้วิตกกังวล โดยมากมักจะมีอาการเวลาท้องผูก หรือท้องเดินบ่อยครั้ง


สาเหตุ

โรคนี้เกิดจากเครือข่ายของหลอดเลือดเฮมอร์รอยด์ (hemorrhoidal plexus) ที่บริเวณผนังของไส้ตรง (rectum) ส่วนล่าง และทวารหนัก (anus) เกิดการบวมหรือโป่งพอง เนื่องจากมีภาวะความดันสูงในหลอดเลือดดำ (ของเครือข่ายหลอดเลือดดังกล่าว) จากเหตุปัจจัยต่าง ๆ อาทิ

    การเบ่งถ่ายอุจจาระหรือนั่งถ่ายอุจจาระนาน ๆ 
    อาการท้องผูก หรือท้องเดินเรื้อรัง
    การนั่งนาน ๆ หรือยกของหนัก
    การกินอาหารที่มีกากใยน้อย
    การขาดการออกกำลังกาย
    การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
    น้ำหนักมาก หรือภาวะอ้วน
    ภาวะตั้งครรภ์
    ไอเรื้อรัง

นอกจากนี้ ยังอาจพบร่วมกับโรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง (ทำให้มีภาวะความดันในหลอดเลือดดำตับสูง ซึ่งส่งผลกระทบมาที่หลอดเลือดดำที่ทวารหนัก) โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel disease) ก้อนเนื้องอกในท้อง (เช่น เนื้องอกมดลูก เนื้องอกหรือถุงน้ำรังไข่) ท้องมาน (ภาวะท้องบวมน้ำ) มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น

บางคนอาจมีประวัติว่ามีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคนี้

บางคนอาจเกิดโรคนี้โดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจนก็ได้


อาการ

ส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก เป็นเลือดแดงสด เกิดขึ้นขณะเบ่งถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ อาจสังเกตมีเลือดเปื้อนกระดาษชำระ หรือเคลือบที่ผิวอุจจาระ หรือมีเลือดไหลออกเป็นหยดลงโถส้วม เลือดที่ออกจะไม่ปะปนกับอุจจาระและไม่มีมูกร่วมด้วย แต่ละครั้งเลือดออกไม่มากและหยุดได้เอง โดยไม่มีอาการเจ็บปวด เมื่อถ่ายครั้งใหม่ก็จะมีเลือดออกได้อีก ส่วนใหญ่มักมีอาการถ่ายเป็นเลือดอยู่ 2-3 วัน แล้วหายไปเอง

สำหรับริดสีดวงทวารภายนอก อาจมีอาการระคายเคืองหรือคันรอบ ๆ ปากทวารหนัก หรืออาจคลำพบติ่งเนื้อนิ่ม ๆ ที่ขอบทวารหนัก ในรายที่มีลิ่มเลือดอุดตันแทรกซ้อนจะมีอาการปวดรุนแรง และคลำได้ก้อนแข็งที่บริเวณทวารหนัก

สำหรับริดสีดวงทวารภายใน ในระยะแรกมักตรวจไม่พบหัวริดสีดวง ต่อเมื่อเป็นระยะที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนัก จะพบว่ามีก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ยื่นออกมานอกขอบทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ ซึ่งมักเลื่อนกลับเข้าไปได้เองเมื่อหยุดเบ่งถ่าย หรือใช้มือดันกลับเข้าไปได้ แต่ถ้ายื่นออกมานอกทวารหนักตลอดเวลา ไม่สามารถเลื่อนกลับเข้าไปได้ อาจทำให้รู้สึกปวด 

ถ้ามีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง อาจมีอาการอ่อนเพลียและซีดได้


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่แม้ว่าจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย แต่มักไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่ปล่อยให้มีอาการเรื้อรัง อาจมีการเสียเลือดเรื้อรัง เกิดภาวะโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็กได้

นอกจากนี้ ในรายที่เป็นริดสีดวงภายในระยะรุนแรง หัวริดสีดวงอาจยื่นออกมาย้อยที่ปากทวารหนัก ถูกกล้ามเนื้อหูรูดบีบรัด ทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยง เรียกว่า "ริดสีดวงชนิดถูกบีบรัด (strangulated hemorrhoid)" มีอาการเกิดก้อนเจ็บที่ขอบทวารหนัก ซึ่งก้อนจะโตขึ้นเร็วใน 24 ชั่วโมงแรก และรู้สึกเจ็บมากในระยะ 5-7 วันแรก มักมีน้ำเมือกและเลือดซึม และถ่ายลำบาก อาการจะค่อยทุเลา หายเป็นปกติประมาณ 2 สัปดาห์ไปแล้ว ผู้ป่วยอาจมีประวัติว่าเคยเป็นริดสีดวงมาก่อนหรือไม่ก็ได้

ส่วนโรคริดสีดวงภายนอก อาจเกิดลิ่มเลือดขึ้นในหัวริดสีดวง เรียกว่า "ริดสีดวงทวารชนิดมีลิ่มเลือดอุดตัน (thrombosed hemorrhoid)" ทำให้ริดสีดวงเกิดการอักเสบ บวม มีอาการปวดรุนแรงขณะนั่ง เดิน และถ่ายอุจจาระ และคลำได้ก้อนแข็งที่บริเวณทวารหนัก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากใน 24-48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นลิ่มเลือดจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมไป อาการจะค่อย ๆ ทุเลา และอาจหายเป็นปกติได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังหายแล้วอาจพบเนื้อเยื่อบริเวณนั้นกลายเป็นติ่งหนัง (skin tag)   

ผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนต้องรีบไปให้แพทย์รักษา


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย รวมทั้งการตรวจทวารหนัก

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารภายใน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในลำไส้ใหญ่

บางรายอาจตรวจพบก้อนหรือติ่งหนัง (skin tag) ที่ขอบทวารหนัก หรือก้อนเนื้อนิ่มที่ยื่นโผล่ออกมาที่ปากทวารหนัก

หากยังวินิจฉัยได้ไม่ชัดเจน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีอาการเรื้อรัง) หรือสงสัยมีความผิดปกติอื่นในลำไส้ใหญ่หรือช่องท้อง หรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ใช้กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (anoscopy/proctoscopy/sigmoidoscopy/colonoscopy) ตรวจเลือด อุจจาระ ปัสสาวะ การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรืออัลตราซาวนด์ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่มีอาการเล็กน้อย คือมีเลือดออกเล็กน้อยขณะเบ่งถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ ไม่มีอาการเจ็บปวด แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตอาการ เวลาถ่ายอุจจาระพยายามไม่เบ่งแรง และไม่นั่งถ่ายนาน ๆ อย่านั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก

ถ้าจำเป็นอาจให้การรักษาอาการท้องผูกหรือท้องเดินที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการกำเริบ

สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก แนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวเพื่อให้อุจจาระนุ่มและถ่ายง่าย (ดูหัวข้อ "การดูแลตนเอง" ด้านล่าง)

2. ถ้ามีอาการปวดริดสีดวงทวารเนื่องจากมีการอักเสบ แนะนำให้ผู้ป่วยนั่งแช่ในน้ำอุ่นจัด ๆ (ขนาดร้อนพอทน หรือประมาณ 40 องศาเซลเซียส) วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที แล้วใช้ผ้านุ่ม ๆ ซับให้แห้ง

ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด-พาราเซตามอล หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก) ควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดที่เข้าสารฝิ่นหรืออนุพันธ์ของฝิ่น เพราะอาจทำให้ท้องผูก นอกจากนี้อาจใช้ยาชาชนิดเจล (ที่มีตัวยา lidocaine) ทาระงับปวด

นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร หรือยาทาที่มีตัวยาสเตียรอยด์ผสมกับยาชา (เช่น ยาที่มีชื่อการค้าว่า "Proctosedyl" "Doproct" "Scheriproct N" ชนิดเหน็บทวาร หรือชนิดขี้ผึ้ง/ครีมสำหรับใช้ทา วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหลังถ่ายอุจจาระ) เพื่อลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดและคัน (จะหยุดใช้เมื่ออาการทุเลาแล้ว จะไม่ใช้นานเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้ผิวบาง)

3. ถ้ามีภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง ให้ยาบำรุงโลหิต

4. ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก แพทย์จะใส่ถุงมือใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไป

5. ถ้าริดสีดวงภายนอกมีลิ่มเลือดอุดตัน มีอาการปวดรุนแรง แพทย์จะทำการกรีดเอาลิ่มเลือดออกไป ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาปวดได้ทันที (จะได้ผลดีภายใน 72 ชั่วโมงหลังเกิดลิ่มเลือด) หลังจากนั้นแนะนำให้ผู้ป่วยแช่น้ำอุ่นจัด ๆ และใช้ยาทาหรือยาเหน็บริดสีดวงทวาร 

6. ถ้าให้การรักษาดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ผล มีอาการปวดมาก หรือมีเลือดออกเรื้อรัง หรือมีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักบ่อยหรือดันกลับเข้าไปไม่ได้ แพทย์อาจทำการรักษาด้วย "หัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด" วิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้

    การใช้ยางรัด (rubber band ligation) รัดรอบ ๆ หัวริดสีดวงภายใน ทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่ได้ หัวริดสีดวงก็จะเหี่ยวแห้งและหลุดออกเองภายใน 1 สัปดาห์ วิธีนี้มีอัตราการหายขาดค่อนข้างสูง แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการปวดถ่วงในทวารหนัก เลือดออก (ไม่มากและหยุดเองได้) หัวริดสีดวงอักเสบ (บวม เจ็บ) และย้อยออกมาได้ 
    การฉีดสารก่อกระด้าง (sclerotherapy) เข้าที่หัวริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงฝ่อไป วิธีนี้ใช้ได้ผลดี เหมาะสำหรับริดสีดวงภายในระยะที่ 1 และ 2 มีความสะดวก ปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวด แต่มีอัตราการหายขาดน้อยกว่าการใช้ยางรัด
    การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ อินฟราเรด หรือความร้อน (laser, infrared or bipolar photocoagulation) ทำให้หัวริดสีดวงแข็งและยุบลง วิธีนี้ใช้สำหรับรักษาริดสีดวงภายในที่มีขนาดเล็กและกลาง มีผลข้างเคียงน้อย แต่มีอัตราการกำเริบใหม่มากกว่าการใช้ยางรัด

7. ถ้าเป็นมาก มีภาวะแทรกซ้อน หรือรักษาด้วยยาและหัตถการต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล แพทย์ก็จะรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งมีให้เลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้

    การผ่าตัดเอาหัวริดสีดวงออก (hemorrhoidectomy) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยเลาะเอาเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารออก วิธีนี้ให้ผลการรักษาดี มีโอกาสในการกลับมากำเริบใหม่น้อย แต่อาจมีผลข้างเคียงคือ ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะคั่ง (ถ่ายปัสสาวะไม่ออก) และการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้
    การผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือเย็บติด (stapled hemorrhoidectomy/stapled hemorrhoidopexy) เป็นการใช้เครื่องมือคล้ายเครื่องยิงลวดทำการตัด เย็บ และผูกหัวริดสีดวง ปิดกั้นเลือดที่จะไปเลี้ยงบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร ทำให้หัวริดสีดวงเกิดการฝ่อและหลุดไป วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาริดสีดวงทวารภายในเท่านั้น วิธีนี้ทำให้เกิดการเจ็บปวดน้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แต่มีความเสี่ยงต่อการกำเริบใหม่ และภาวะไส้ตรงยื่นย้อย (rectal prolapse) มากกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม และอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น เลือดออก ปัสสาวะไม่ออก เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น

ผลการรักษา ผู้ที่มีอาการเล็กน้อยซึ่งพบได้เป็นส่วนใหญ่ สามารถให้การรักษาตามอาการ ทำให้อาการทุเลาได้ แต่มีโอกาสกลับมากำเริบเป็นครั้งคราวเวลาท้องผูกหรือท้องเดิน

ในรายที่มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด (เช่น การใช้ยางรัด) มีโอกาสกำเริบใหม่ภายใน 5-10 ปี ถึงร้อยละ 30-50 ส่วนในรายที่รักษาด้วยการผ่าตัดมีโอกาสกำเริบใหม่น้อยกว่าร้อยละ 5

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ถ่ายอุจจาระออกเป็นเลือดสด มีอาการคันหรือเจ็บที่ทวารหนัก มีก้อนยื่นออกมาที่ปากทวารหนักตอนถ่ายอุจจาระ หรือคลำพบก้อนที่ปากทวารหนัก ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นริดสีดวงทวาร  ควรดูแลตนเองดังนี้

    รักษาและใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
    เวลาถ่ายอุจจาระอย่านั่งนาน และไม่เบ่งแรง (ผ่อนแรงเบ่งด้วยการอ้าปากและค่อย ๆ หายใจออกทางปาก)
    ไม่นั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก
    ถ้ามีอาการท้องผูก ควรปฏิบัติดังนี้

- ดื่มน้ำมาก ๆ วันละประมาณ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร) 
- กินอาหารที่มีกากใยสูง (ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืช) ให้มาก ๆ
- งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ท้องผูกได้
- ออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก (ภาวะน้ำหนักเกินมีผลต่อการกำเริบของโรค) และป้องกันท้องผูก
- ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาทุกวัน และอย่าอั้นถ่ายเวลามีอาการปวดถ่ายอุจจาระ
- กินสารเพิ่มกากใย และ/หรือยาระบายตามคำแนะนำของแพทย์

    ถ้าปวดริดสีดวงทวาร นั่งแช่น้ำอุ่น ใช้ยาแก้ปวด และใช้ยาเหน็บหรือยาทาริดสีดวงทวารตามคำแนะนำของแพทย์

ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีเลือดออกมาก มีภาวะซีด รู้สึกอ่อนเพลียมาก หรือเวลาลุกนั่งมีอาการหน้ามืดจะเป็นลม
    มีอาการปวดริดสีดวงมาก
    หัวริดสีดวงยื่นออกมาที่ปากทวารหนัก และไม่เลื่อนกลับเข้าไปได้เอง
    น้ำหนักลด ปวดท้องบ่อย ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเดินเรื้อรัง หรือมีอาการท้องผูกสลับท้องเดิน
    มีอาการถ่ายเป็นเลือดนานเกิน 1 สัปดาห์ หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน โคลพิโดเกรล ) หรือสารกันเลือดเป็นลิ่ม (เช่น วาร์ฟาริน)
    มีความวิตกกังวล
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปใช้ที่บ้าน ถ้าใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

การป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ หรือช่วยป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ ควรระวังอย่าให้ท้องผูก และลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอาการ ดังนี้

    ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดน้ำหนักถ้าอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
    กินอาหารที่มีกากใยมาก (เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืช) กรณีที่กินอาหารประเภทนี้ไม่มากพอ ให้กินสารเพิ่มกากใยเสริม 
    ดื่มน้ำมาก ๆ วันละประมาณ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร) 
    ออกกำลังกายเป็นประจำ 
    ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาทุกวัน และอย่าอั้นถ่ายเวลามีอาการปวดถ่ายอุจจาระ
    เวลาถ่ายอุจจาระอย่านั่งนาน (เช่น นั่งอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์มือถือ) และไม่เบ่งแรง
    หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก

ข้อแนะนำ

1. อาการถ่ายเป็นเลือดแม้ว่าส่วนใหญ่จะเกิดจากแผลปริที่ขอบทวารหนักและริดสีดวงทวาร และสามารถให้การดูแลรักษาตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ได้ แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ร้ายแรงได้ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel disease) ดังนั้น ถ้ามีอาการผิดแปลกไปจากอาการริดสีดวงที่เคยเป็น หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมกับอาการถ่ายเป็นเลือด (เช่น มีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง มีอาการอ่อนเพลีย ท้องเดินเรื้อรัง หรือน้ำหนักลด) หรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้ชัดเจน

2. ผู้ที่มีอาการถ่ายเป็นเลือดจากริดสีดวงทวาร ซึ่งมีอาการเล็กน้อย และมีอาการเป็นครั้งคราว อาจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก และอาจมีความอายที่จะไปพบแพทย์ จะลองรักษาตนเอง หรือปล่อยปละละเลย จะไปพบแพทย์ต่อเมื่อเกิดภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา หรือพบว่าเป็นโรคร้ายแรงอื่น ๆ ซึ่งมักมีความยุ่งยากในการรักษา ดังนั้นควรแนะนำให้คนทั่วไปมีความตระหนักรู้ในเรื่องอาการถ่ายเป็นเลือด และการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

3. ผู้ที่มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน โคลพิโดเกรล) หรือสารกันเลือดเป็นลิ่ม (เช่น วาร์ฟาริน) ซึ่งใช้รักษาและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการถ่ายเป็นเลือด อาจมีเลือดออกรุนแรงได้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อปรับยาให้เหมาะสม

โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

6

ปอดทะลุ (ปอดรั่ว ภาวะมีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอดก็เรียก) หมายถึง ภาวะที่มีลมรั่วออกจากถุงลม (alveoli) เข้าไปขังอยู่ในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural cavity) ลมที่รั่วจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และดันให้เนื้อปอดแฟบลง ทำให้มีอาการหายใจลำบาก และอาจเกิดภาวะช็อกถึงตายได้เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก


สาเหตุ
อาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บ เรียกว่า ปอดทะลุจากการบาดเจ็บ (traumatic pneumothorax) เช่น ถูกยิง ถูกแทง รถชน เป็นต้น

หรืออยู่ดี ๆ อาจเกิดขึ้นเองก็ได้ เรียกว่า ปอดทะลุที่เกิดเอง (spontaneous pneumothorax) เกิดขึ้นเพราะมีการแตกของถุงลมที่ผิดปกติ มักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง นอกจากนี้ยังอาจพบในคนที่เป็นโรคหืด ปอดอักเสบ ภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด วัณโรคปอด เป็นต้น หรือบางรายอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุก็ได้ มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่

ถ้ามีลมรั่วไม่มาก อาจไม่มีอาการรุนแรง และหายได้เองภายในไม่กี่วัน

แต่ถ้ามีลมรั่วออกมามากมักจะทำให้เกิดอาการหอบรุนแรง หากช่วยเหลือไม่ทันอาจเสียชีวิตได้


อาการ
มีอาการแสดงได้หลายอย่างขึ้นกับปริมาณของลมที่รั่ว และสภาพของผู้ป่วย

บางรายอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกแปลบขึ้นมาทันทีทันใด และอาจเจ็บร้าวไปที่ไหล่ หรือแขนข้างเดียวกัน แล้วต่อมารู้สึกหายใจหอบ

บางรายอาจมีอาการไอแห้ง ๆ ร่วมด้วย

บางรายอาจเพียงแต่รู้สึกแน่นอึดอัดในหน้าอกหรือเจ็บหน้าอกเป็นครั้งคราว คล้ายกับอาการของเยื่อหุ้มปอดอักเสบ   

เมื่อปล่อยไว้หลายวัน ถ้าลมยังรั่วออกมาเรื่อย ๆ จนดันให้เนื้อปอดข้างหนึ่งแฟบ ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหอบมาก ชีพจรเต้นเร็ว และความดันต่ำ

ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory failure) หรือเกิดภาวะช็อกได้


การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

ในรายที่เป็นเล็กน้อย หรือเพิ่งมีอาการในระยะแรก การตรวจร่างกายอาจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ในรายที่มีลมรั่วออกไปในโพรงเยื่อหุ้มปอดในปริมาณมาก มักพบว่าหน้าอกข้างที่มีอาการผิดปกติ (เจ็บหน้าอกหรือแน่นอึดอัด) มีลักษณะเคาะโปร่งกว่าอีกข้างหนึ่ง ท่อลม (trachea) เบี้ยวไปข้างที่ไม่มีอาการผิดปกติ ใช้เครื่องฟังตรวจปอดจะไม่ได้ยินเสียงหายใจ หรือได้ยินค่อยมาก

ในรายที่เป็นรุนแรง อาจพบอาการหายใจลำบาก หรือภาวะช็อก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการเอกซเรย์ปอด และใช้เข็มต่อกับกระบอกฉีดยาเจาะที่ช่องใต้ซี่โครงซี่ที่ 2  (โดยฉีดยาชาก่อน) ถ้าพบมีลมดันเข้าไปในกระบอกฉีดยา แสดงว่ามีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอดจริง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และทำการเจาะระบายลมออก

หากพบมีสาเหตุชัดเจน ก็จะให้การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุร่วมด้วย

ผลการรักษา ส่วนใหญ่หายได้เป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าปล่อยให้มีภาวะรุนแรงมากและได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การดูแลตนเอง

หากมีอาการเจ็บแปลบที่หน้าอก และ/หรือรู้สึกแน่นอึดอัดในหน้าอกข้างหนึ่งนานติดต่อกันเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นปอดทะลุ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน
สำหรับคนทั่วไป ควรไม่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปอดทะลุได้

สำหรับผู้ที่มีปอดทะลุจากโรคบางชนิด เช่น ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ถุงลมปอดโป่งพอง เป็นต้น ก็ให้การป้องกันตามโรคต้นเหตุเหล่านี้


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ในระยะแรกอาจมีอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกข้างหนึ่ง โดยไม่มีอาการหายใจหอบเหนื่อยและความผิดปกติอื่น ๆ อาจทำให้เข้าใจว่าเป็นเพียงการเจ็บยอกกล้ามเนื้อหน้าอกหรือเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ผู้ป่วยควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการต่อเนื่องกันเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ หรือรู้สึกมีอาการแน่นอึดอัดในหน้าอกมากขึ้น หรือมีความวิตกกังวลว่าอาจมีสาเหตุที่ร้ายแรง ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์

2. ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดทะลุเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อรักษาหายแล้ว ประมาณร้อยละ 50 อาจมีอาการกำเริบซ้ำได้อีก และถ้ามีประวัติสูบบุหรี่ ควรงดสูบบุหรี่เพื่อป้องกันมิให้มีอาการกำเริบซ้ำ



ตรวจโรค: ปอดทะลุ/ภาวะมีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด (Pneumothorax) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

7
น้ำเป็นหนึ่งในความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ร่างกายของเราไม่สามารถทำงานได้ดี และอยู่รอดได้โดยปราศจากมัน นอกจากนี้ ยังเป็นสารสำคัญที่เราใช้ในชีวิตประจำวันของเรา เราใช้ในการอาบน้ำ ซักเสื้อผ้า ล้างจาน เตรียมอาหาร เป็นต้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีแหล่งน้ำไว้ที่บ้าน ซึ่งแหล่งน้ำหลักที่คุณอาจมีที่บ้านมี 3 แหล่ง ได้แก่ น้ำบาดาล น้ำผิวดิน และน้ำฝน ในเมืองส่วนใหญ่ น้ำของเราส่วนใหญ่มาจากบ่อน้ำและสกัดโดยใช้เครื่องสูบน้ำ เช่นเดียวกับเครื่องจักรอื่น ๆ และสาเหตุที่อาจเป็นสัญญาณบอกว่า ปั๊มน้ำของเราเริ่มมีปัญหา


1.    น้ำสกปรกและมีกลิ่นเหม็น

เมื่อก๊อกน้ำของคุณผลิตน้ำสกปรกและมีกลิ่นเหม็น อาจบอกว่าระบบปั๊มของคุณกำลังดึงน้ำจากบ่อน้ำที่ปนเปื้อนด้วยตะกอนและทราย หรือแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังอาจบอกว่าปั๊มของคุณไม่สามารถกรองตะกอนก่อนที่จะสูบน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำได้ดี ฉะนั้น ต้องแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากน้ำสกปรกและมีกลิ่นเหม็น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณเมื่อบริโภค


2.    ปั๊มน้ำไม่เริ่มทำงาน

ปั๊มน้ำไม่สามารถสตาร์ทได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณสามารถตรวจสอบปลั๊ก สายเคเบิล หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ของแผงไฟฟ้า เพื่อดูว่านี่เป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่ เมื่อแผงไฟฟ้าไม่มีข้อบกพร่อง คุณอาจลองตรวจสอบมอเตอร์ปั๊ม หากมอเตอร์ปั๊มไหม้ คุณต้องเปลี่ยนปั๊มทันที


3.    ปั๊มน้ำที่มีเสียงดังและสั่นสะเทือน

ปั๊มน้ำอาจมีเสียงดังมากเมื่อใช้งาน แต่เมื่อคุณเริ่มได้ยินเสียงเอี๊ยด หรือ เสียงติ๊กแปลก ๆ ที่ออกมาจากมันมากกว่าปกติ อาจบอกว่าตลับลูกปืนปั๊มสึก คุณสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนลูกปืน หรือคุณอาจเลือกเปลี่ยนทั้งปั๊มถ้าจำเป็น


4.    วงจรน้ำสั้นลง

ปั๊มน้ำมักจะทำงานประมาณหนึ่งถึงสองนาทีเพื่อสร้างแรงดันในระบบ เมื่อปั๊มของคุณเปิดและปิดเป็นระยะเวลาสั้นกว่าปกติ การทำงานของปั๊มน้ำสั้นลง เกิดจากการมีอากาศในถังไม่เพียงพอ หรือมีอากาศมากเกินไปในถังเก็บน้ำ นอกจากนั้น ยังเกิดจากการอุดตันของท่อส่งน้ำ


5.    ปั๊มน้ำไม่หยุดทำงาน

หากปั๊มน้ำที่บ้านไม่หยุดทำงาน แสดงว่ามีการรั่วไหลในท่อของระบบหรือน้ำประปาของคุณว่างเปล่า หากเป็นกรณีนี้ คุณต้องซ่อมแซมรอยรั่วและตรวจสอบให้แน่ใจว่าแหล่งน้ำของคุณ เช่น บ่อน้ำหรือถังเก็บน้ำ มีน้ำเพียงพอ


6.    ไม่มีน้ำในบ้าน

เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น คุณต้องตรวจสอบระบบปั๊มน้ำของคุณ โดยเฉพาะแผงไฟฟ้าและถังแรงดัน ลองเปิดปั๊มของคุณหากปิดอยู่ แต่ถ้าปั๊มยังเปิดอยู่และปั๊มไม่ทำงาน คุณต้องโทรหาผู้เชี่ยวชาญทันทีเพื่อช่วยคุณแก้ไข


ซ่อมบำรุงอาคาร: สัญญาณที่บอกว่าปั๊มน้ำของเรากำลังมีปัญหา อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

8
หลายคนสงสัยว่า ท้องเสียกินอะไรดี ไม่ว่าจะมีอาการท้องเสีย ไม่ว่าจะท้องเสียระยะต้นทั่วๆ ไป หรือท้องเสียเฉียบพลัน เพราะอาการท้องเสียเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นได้ทั้งนั้นค่ะ การเลือกรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าไม่ระวังมีหวังยิ่งปวดท้องแถมอาการท้องเสียยังไม่ทุเลาลงอีกด้วยน่ะสิคะ เพื่อป้องกันอาการดังกล่าว เรามี 7 อาหารควรทาน เมื่อท้องเสีย หรือท้องเสียเฉียบพลัน มาฝากค่ะ

 
ท้องเสียกินอะไรดี ท้องเสียเฉียบพลัน หรือท้องร่วง ห้ามกินอะไร

 
ท้องเสีย มีอาการอะไรบ้าง

      ก่อนอื่นเราขอแบ่งประเภทของอาการท้องเสียเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.ท้องเสียทั่วไป และ 2.ท้องเสียเฉียบพลัน โดยแบ่งได้ตามอาการดังนี้ค่ะ
ท้องเสียทั่วไป หรือท้องเสียระยะแรกเริ่ม มีอาการอย่างไร

    ถ่ายอุจจาระเหลว เป็นมูก หรือเป็นน้ำ ติดต่อกัน 3 ครั้งขึ้นไปต่อวัน
    อาจมีอาการปวดท้องบิดแบบเป็นๆ หายๆ หรือมีอาการท้องอืด คลื่นไส้ร่วมด้วย       

ท้องเสียเฉียบพลัน หรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน มีอาการอย่างไร

    ถ่ายเหลวเป็นน้ำในปริมาณมาก อาจสูงถึง 10-20 ครั้งต่อวัน
    ถ่ายเป็นมูก หรือเป็นมูกมีเลือดปน มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
    ร่างกายอ่อนเพลียมากจากการขาดน้ำ
    มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส

       ซึ่งหากเป็นอาการของท้องเสียเฉียบพลัน หรืออุจจาระร่วงเฉียบพลันล่ะก็ ควรจะพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ (Dehydration) หรือการที่ร่างกายสูญเสียทั้งน้ำและแร่ธาตุ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยล่ะค่ะ

 
ท้องเสียกินอะไรดี และ ท้องเสียห้ามกินอะไร

      สิ่งที่สาวๆ ต้องพึงระวังไว้เป็นอย่างยิ่งเมื่อคุณท้องเสียอยู่ คือการหลีกเลี่ยงทานอาหารที่มีรสจัดหรือเผ็ด ควรเลือกรับประทานอ่อนๆ ที่ย่อยง่ายเป็นหลัก หากนึกไม่ออกว่าจะเลือกเมนูไหนดี เรามีไอเดียดีๆ มาฝากกันค่า

 
1. โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม

คนที่เพิ่งท้องเสียมา อาหารที่ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทที่ย่อยง่าย ไม่ว่าจะเป็น โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม อาจจะเพิ่มเติมเป็นหมูสับละเอียดๆ เคี้ยวให้เยอะก็ถือว่าช่วยระบบย่อยให้ทำงานน้อยลงได้นะคะสาวๆ สิ่งที่ผู้ที่มีอาการท้องควรทานนั่นก็คืออาหารประเภทแป้งหรือข้าวแต่ต้องย่อยง่าย ดังนั้นช้อยส์ที่เหมาะที่สุดเห็นจะเป็น โจ๊กและข้าวต้ม นี่แหละค่า

 
2. ขนมปังสีขาว

อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้น สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสียควรเลือกทานอาหารประเภทแป้ง ดังนั้นขนมปังเปล่าๆ สีขาวจึงโอเคค่ะ แต่สำหรับคนท้องเสียเรื้อรังจากอาการลำไส้แปรปรวนควรหลีกเลี่ยงนะคะเพราะมียีสต์เป็นส่วนประกอบนั่นเองค่า

 
3. ซุป

 ซุป จัดเป็นอาหารประเภทเดียวกับโจ๊กและข้าวต้มค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซุปอะไรก็ตามแต่ ขอแค่ไม่รสจัดและย่อยง่ายๆ ก็ถือว่าผ่านค่า 🙂

 
4. กล้วย

เนื่องจากเจ้ากล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่าย อยู่ท้อง และอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งสามารถบรรเทาความรุนแรงของอาการท้องเสียได้ แนะนำเป็นกล้วยน้ำว้านะคะสาวๆ เพราะยังมีสารเเทนนิน เเก้อาการท้องเสียได้อีกด้วยนั่นเอง

 
5. น้ำเปล่าสะอาด

แน่นอนค่ะว่า น้ำเปล่าสะอาด เป็นสิ่งที่ควรดื่มเพื่อชดเชยของเหลวที่เสียไปภายในร่างกายเนื่องจากอาการท้องเสีย จะเรียกว่าเป็นยาวิเศษก็ว่าได้ค่ะสำหรับน้ำเปล่าธรรมดาๆ แต่ประโยชน์นี่มีมากมายนับไม่ถ้วนจริงๆ ค่ะ หากยิ่งเพื่อนๆ สามารถหาน้ำเกลือแร่จะยิ่งเวิร์คค่ะ เพราะจะช่วยทำให้อาการท้องเสียดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

 
6. แกงจืดเต้าหู้

สำหรับคนที่หายท้องเสียมาได้สักระยะ เริ่มรับประทานอาหารได้ปกติ แต่เรายังคงแนะนำให้เป็นอาหารที่อ่อนและย่อยง่ายอยู่ นั่นก็คือ แกงจืดเต้าหู้ ค่า แต่ถ้าเพิ่งท้องเสียมาใหม่ๆ ยังไม่เหมาะที่จะทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักหรือผลไม้ นะคะ

 
7. มันฝรั่ง (ไร้เปลือก)

เนื่องจากมันฝรั่งนั้นมีโพแทสเซียมสูงเช่นเดียวกับกล้วย ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการท้องเสียได้เช่นเดียวกันนั่นเองค่า

 

บริการด้านอาหาร: ท้องเสียกินอะไรดี ต้องลอง! 7 อาหารควรทาน เมื่อ ท้องเสีย หรือ ท้องเสียเฉียบพลัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/catering-service/

9
ปัญหาของผู้ที่เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ที่หลายคนมักจะต้องพบเจอนั่นก็คือ ในเรื่องของการพูด การออกเสียง ซึ่งอาจจะทำให้พูดไม่ชัดในระยะแรกๆ เพราะการที่เราเข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่าจะทำให้มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากทำให้เรารู้สึกพูดไม่ชัดซึ่งเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันและยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราด้วย แต่หลังจากการเข้ารับการจัดฟันไปซักระยะอาการเหล่านี้ก็จะหายไป


เนื่องจากช่องปากของเราเริ่มชินกับการที่มีเครื่องมือติดตั้งอยู่บนผิวฟัน ทำให้สามารถปรับตัวได้และปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน ยังมีอุปสรรคอย่างหนึ่งนั่นก็คือการรับประทานอาหารเพราะอาจจะทำให้รับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารลดลง เนื่องจากการที่เรามีเครื่องมือจัดฟันอยู่ภายในช่องปากนั้น ทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ยาก
 

ซึ่งการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของวัยรุ่นซึ่งแน่นอนว่าวัยรุ่นจะต้องชื่นชอบกับการรับประทานอาหารที่มีความแข็ง เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง ซึ่งต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นศัตรูกับเหล็กจัดฟันเลยทีเดียว เพราะทำให้เข้าไปติดในเหล็กจัดฟันได้ง่ายและทำความสะอาดออกได้ยากนั่นเอง และถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีความแข็งเหนียวเป็นประจำ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่องมือได้ เพราะเวลาที่เรารับประทานอาหารที่มีความแข็ง เราจะต้องใช้แรงกัดค่อนข้างมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อเครื่องมือการจัดฟันและอาจจะทำให้เครื่องมือหลุดออกมาได้ขณะที่เรารับประทานอาหาร นี่คือปัญหาหลักๆของผู้เข้ารับการจัดฟันที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปากหรือที่เรียกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป


แต่ในแง่ของการจัดฟันแบบใสนั้น ปัญหาเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดายและเครื่องมือการจัดฟันยังถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้เข้ากับช่องปากของเราได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการหลวม หรือไม่ทำให้เครื่องมือการจัดฟันหลุด ในเรื่องของการพูด การออกเสียง อาจจะเกิดในช่วง 1-2 วัน หลังจากสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสหรือบางรายอาจจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการพูด การออกเสียงเลย เพราะเครื่องมือมีความพอดีกับช่องปากของเราและในส่วนของการรับประทานอาหารนั้น หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะรับประทานอาหาร จึงทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ มีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น เพราะเวลาที่เรารับประทานอาหารเราสามารถถอดเครื่องมือออกได้
 

ดังนั้น เครื่องมือการจัดฟันจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับการจัดฟัน ทั้งยังช่วยทำให้เราสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่และหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการจัดฟันควรที่จะทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาดทุกซอกทุกมุม เพื่อลดการเกิดฟันผุ เราก็ยังยืนยันว่าการจัดฟันแบบใสจะช่วยทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ทั้งยัง ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอีกด้วยและในแง่ของสุขภาพช่องปากและฟันก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเครื่องมือการจัดฟันที่อาจจะหลุดได้ขณะแปรงฟัน จึงทำให้การจัดฟันแบบใสช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันได้เป็นอย่างดี
 

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเรามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง เพราะทันตแพทย์ของเราผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมเป็นอย่างดี ด้วยการการันตีประสบการณ์กว่า 10 ปี


ทั้งนี้ ทางคลินิกของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจากINVISALIGN ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะการจัดฟันแบบใสจะต้องทำกับทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองแล้วเท่านั้น เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


การจัดฟันใส ช่วยการพูด การบดเคี้ยวอาหารดีขึ้น จริงหรือ ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

10
การเกิดฟันผุในเด็กนั้น มักพบได้บ่อยเพราะเด็กไทยส่วนใหญ่มักมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการตกค้าง เวลาที่เด็กแปรงฟันได้ไม่สะอาด ซึ่งในข้อนี้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังและสอนเด็กให้รู้จักวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพราะถ้าหากเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ ยกตัวอย่างเช่น การที่เด็กมีฟันน้ำนมผุจนรุนแรงถึงขั้นสูญเสียฟันก็อาจจะทำให้ฟันแท้มีปัญหาได้ เพราะเนื่องจากการที่ฟันน้ำนมหลุดออก ก่อนเวลาอันควรอาจจะทำให้ฟันแท้ที่กำลังสร้างฐานได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้ฟันแท้งอกขึ้นมาอย่างผิดปกติหรือบางครั้งเด็กอาจเกิดภาวะฟันแท้หาย

เนื่องจากฟันแท้ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ ซึ่งในข้อนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก การจัดฟันในเด็กนั้น เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น ถ้าวงการทันตกรรมได้คิดค้นนวัตกรรมที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยเด็กที่มีอายุสี่ถึง 15 ปีก็สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้แล้วโดยไม่ต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ ถือว่าสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เด็กมีทัศนคติที่ดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน แต่การเข้ารับการจัดฟันอาจจะมีปัญหาหลายอย่างตามมาได้ ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้มาก คอยหมั่นสังเกตกรรมการแปรงฟันหรือพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อที่เด็กจะได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฟันผุ แต่หากพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้วและเด็กเกิดมีอาการฟันผุจะต้องทำอย่างไร ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักพบได้บ่อยในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน
 
วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงการเกิดอาการฟันผุขณะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเด็กที่ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ขณะจัดฟันต้องมีการใส่เครื่องมือจัดฟันอย่างเข้าไปในช่องปาก ส่งผลให้เกิดช่องว่างหรือซอกเล็กๆ ระหว่างฟันและเครื่องมือ ที่แปรงสีฟันธรรมดาที่เราใช้กัน ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง

เมื่อมีเศษอาหารติดบริเวณเครื่องมือ การทำความสะอาดฟันจึงทำได้ยากจำเป็นต้องใช้ความใส่ใจ เวลา และวิธีทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แปรงขนาดเล็กที่สามารถชอนไชไปตามซอกฟันได้ ใช้ไหมขัดฟัน หากไม่ใส่ใจมากพอในเรื่องความสะอาดมากพอในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ก็จะทำให้เด็กฟันผุได้

มีโอกาสเกิดหินปูนเกาะจนเหงือกอักเสบได้  หรืออาจทำให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้ นั่นเอง แล้วเมื่อเด็กฟันผุขณะจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะต้องพาเด็กเข้าพบแพทย์เพื่อทำการแก้ไขโดยทันที แต่ความจริงแล้วปัญหาเกี่ยวกับช่องปากและฟันก่อนการเข้ารับการจัดฟันนั้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียดเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาก่อนเข้ารับการจัดฟันเพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีปัญหาแทรกซ้อน

แต่ในกรณีที่เด็กเกิดฟันผุขณะเข้ารับการจัดฟันนั้นจะต้องรีบทำการแก้ไขโดยด่วนเพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันได้หรืออาจจะส่งผลต่อฟันบริเวณข้างเคียงซี่อื่นๆ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรใส่ใจมันสังเกตช่องปากและฟันของเด็กให้มากเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ติดตามดูอาการและผลข้างเคียงต่างๆด้วย
 
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ด้านการทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน เพื่อที่จะได้ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด หากเด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ทางเราสามารถตรวจและแก้ไขรักษาได้ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อที่จะได้ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดฟัน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้



หากเด็กมีอาการฟันผุ ขณะจัดฟันเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

11
มือถือ Huawei หัวเหว่ย Huawei P50 Pocket
HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนแบบพับปิดสนิทขนาดพกพา มาพร้อมการถ่ายภาพที่เหนือระดับแบบ Ultra-Violet Photography กล้องหลัง 3 เลนส์ ความจุแบต 4000 mAh

รายละเอียดเบื้องต้น
ยี่ห้อ-รุ่น                  หัวเหว่ย Huawei P50 Pocket
ราคากลาง                46,990 บาท
จำนวนซิม                2 ซิม (Nano Sim)
แบบดีไซน์                จอสัมผัส
สี                         White
   
ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(LTE 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 34, 38, 39, 40, 41)
   
ขนาด-น้ำหนัก                     ยาว 170 x กว้าง 75.5 x หนา 7.2 มม., น้ำหนัก 190 กรัม
ความจุข้อมูลภายใน (ROM)     256 GB
ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด       Nano Memory
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ          ความจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh

จอแสดงผล
ชนิดจอ                        จอสัมผัส (Foldable OLED)
ความละเอียด                 6.9 นิ้ว, 442 ppi, 1,188 x 2,790 px
   
รายละเอียดอื่น
กล้องหลัง 3 เลนส์ Leica ความละเอียด 40MP F1.8, (wide), PDAF, Laser AF + 13MP F2.2, 120 องศา (ultrawide) + 32MP F1.8
บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K 30fps, 1080p 30/120/240fps, gyro-EIS
ประมวลผลชิปเซต Qualcomm Snapdragon 888 4G
ทำงานบน HarmonyOS 2.0
มีระบบเซนเซอร์ Fingerprint (side-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, color spectrum
รองรับชาร์จเร็ว 40W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด
กล้องหลัง (10.7 Mpx), กล้องหน้า (40 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ
Auto Focus, Flash
ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)
Octa-core (1x2.84 GHz Kryo 680 & 3x2.42 GHz Kryo 680 & 4x1.80 GHz Kryo 680)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
Adreno 660
   หน่วยความจำ (RAM)
8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก
USB(Type-C 2.0), Bluetooth(5.2), NFC, Wi-Fi(6)
   ระบบรับส่งข้อความ
SMS, MMS, EMAIL, PUSH MAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS
A-GPS. Up to tri-band: GLONASS (3), BDS (3), GALILEO (2), QZSS (2), NavIC



มือถือ Huawei หัวเหว่ย Huawei P50 Pocket อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/huawei/

12
Samsung ได้เปิดตัวกันสมาร์ตโฟนรุ่นกลางมา 2 รุ่น สดร้อนๆ กับ Samsung Galaxy A35 5G และ Samsung Galaxy A55 5G ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนแนวไลฟ์สไตล์ เน้นเล่นโซเชียล, รับชมความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง, ถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอได้คมชัดถึงระดับ 4K แล้วหากถ้านำเจ้า 2 รุ่นนี้มาเล่นเกมคลายเครียดบ้าง จะทำได้ดีหรือไม่ บทความนี้ผู้เขียนจะมาลองให้ดูกันครับ

ด้านชิปเซ็ต
ทั้งคู่มาด้วยชิปเซ็ตจากทาง Samsung พัฒนาขึ้นเอง นั่นก็คือ "Exynos" โดย Samsung Galaxy A35 5G จะใช้ชิป Exynos 1380 (5nm), Octa-core (4x2.4 GHz Cortex-A78 & 4x2.0 GHz Cortex-A55), GPU:  Mali-G68 MP5 ซึ่งจะชิปเป็นรุ่นเดียวกับ Samsung Galaxy A54 5G ของปีที่แล้ว
 
ส่วน Samsung Galaxy A55 5G จะใช้ชิปตัวใหม่ Exynos 1480 (4nm), Octa-core (4x2.75 GHz Cortex-A78 & 4x2.0 GHz Cortex-A55), GPU: Samsung Xclipse 530, 1300 MHz ครั้งนี้พิเศษที่มีการไปจับมือกับทาง AMD เพื่อมาร่วมพัฒนาการ์ดจอ เหมือนกับชิป Exynos 2400 ด้วย

 
===== Performance =====

ด้านการเล่นเกม

ทดสอบเกม ROV
สำหรับ Samsung Galaxy A35 5G จะใช้ชิปตัวเดิมที่ออกมาปีที่แล้ว ทำให้มีการ Optimize ชิป Exynos 1380 กับการใช้งานและเกมต่างๆ ได้ดีแล้ว
 
การตั้งค่าในการเล่น
ภาพ HD: สูงมาก
การแสดงผล: สูง
พาร์ติเคิล สูงมาก
โหมดเฟรมเรตสูง: เปิด
 
การทดสอบ
เล่นไป 60 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 12%
FPS 60
อุณหภูมิ 37 องศา

 
สำหรับ Samsung Galaxy A55 5G จะใช้ชิปตัวใหม่ Exynos 1480 ต้องรออัปเดตการ Optimize ของชิปใหม่ Exynos 1480 กับเกม ROV ครับ
 
การตั้งค่าในการเล่น
ภาพ HD: สูงมาก
การแสดงผล: สูง
พาร์ติเคิล สูงมาก
โหมดเฟรมเรตสูง: เปิด
 
การทดสอบ
เล่นไปประมาณ 41 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 5%
FPS 45
อุณหภูมิ 37 องศา

 
ทดสอบเกม PUBG
สำหรับการทดสอบ Samsung Galaxy A35 5G หากต้องการปรับกราฟิกให้แสดงผลสวยๆ แบบ HDR HD จะเล่นได้ที่ 40 fps ครับ แต่ถ้าต้องการความไหลลื่นมากที่สุดระดับ 60fps ต้องปรับกราฟฟิกเป็นต่ำสุดหรือ "ไหลลื่น" และปรับเฟรมเรตสูงสุด ก็จะเล่นได้ที่ 60fps ครับ
 
การตั้งค่าในการเล่น
กราฟฟิก: HDR HD / ลื่นไหล
เฟรมเรต Ultra / สูงสุด
 
การทดสอบ
เล่นไปประมาณ 35 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 8%
FPS 40 / 60
อุณหภูมิ 37-39 องศา

 
สำหรับ Samsung Galaxy A55 5G ตอนนี้ประสิทธิภาพในการเล่น PUBG เหมือนกับ Samsung Galaxy A35 5G ถ้าปรับกราฟิก HDR HD จะเล่นได้ 40fps แต่ถ้าอยากเล่นแบบลื่นๆ 60fps ต้องปรับกราฟิกเป็น "ลื่นไหล" และเฟรมเรตสูงสุดครับ
 
การตั้งค่าในการเล่น
กราฟฟิก: HDR HD / ลื่นไหล
เฟรมเรต Ultra / สูงสุด
 
การทดสอบ
เล่นไปประมาณ 35 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 8%
FPS 40 / 60
อุณหภูมิ 37-39 องศา
 
ทดสอบเกม Call of Duty Mobile
สำหรับการทดสอบ Samsung Galaxy A35 5G สามารถปรับกราฟิกได้ตั้งแต่ระดับ ต่ำ, กลาง และสูง แต่ถ้าอยากได้เฟรมเรตสูงสุดจะปรับได้ที่กราฟิก "ต่ำ" ครับ
 
การตั้งค่าในการเล่น
กราฟฟิก สูง / ต่ำ
เฟรมเรต สูงมาก / สูงสุด
 
การทดสอบ
เล่นไปประมาณ 45 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 10%
FPS Multiplayer: 60 fps / Battle Royale: 40 fps
อุณหภูมิ 37-39 องศา

สำหรับ Samsung Galaxy A55 5G ตอนนี้จะปรับกราฟิกได้เพียงแค่ระดับ "ต่ำ" ครับ และเฟรมเรตจะปรับได้ที่ "สูง" ซึ่งจะได้ FPS อยู่ที่ประมาณ 60fps ในโหมด Multiplayer แต่จะได้ 40fps ในโหมด Battle Royale ครับ
 
การตั้งค่าในการเล่น
กราฟฟิก ต่ำ (เลือกได้อย่างเดียว)
เฟรมเรต สูงมาก
 
การทดสอบ
เล่นไปประมาณ 46 นาที
แบตเตอรี่ลดไป 10%
FPS Multiplayer: 60 fps / Battle Royale: 40 fps
อุณหภูมิ 37-39 องศา
 
อัปเกรดระบบระบายความร้อน
เรื่องความร้อนหายห่วงได้ครับ เพราะครั้งนี้ Samsung Galaxy A55 5G และ Samsung Galaxy A35 5G อัปเกรดตัวระบายความร้อน  Vapor chamber ที่ใหญ่ขึ้นถึง 74% จากที่ได้ลองใช้งาน เล่นเกม แล้วไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนมากนักครับ ซึ่งจากเกมที่ได้ทดสอบจะอยู่ช่วง 37-39 องศา เท่านั้น แต่ถ้านำออกไปถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอกลางแจ้ง จะมีรู้สึกถึงเครื่องอุ่นๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนแสบมือครับ อีกทั้ง 2 รุ่นนี้ยังป้องกันน้ำ/ฝุ่นได้ที่ระดับ IP67 กันน้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที ครับ
 

สรุป
สำหรับการเล่นเกมถือว่าทำได้ค่อนข้างโอเคเลยนะครับ หากใครที่ต้องการสมาร์ตโฟนแนวไลฟ์สไตล์ดีไซน์พรีเมียม จอสวย กล้องดี แบตอึด เล่นเกมได้ด้วย เจ้า Samsung Galaxy A35 5G  และ Samsung Galaxy A55 5G ตอบโจทย์ทุกการใช้งานเลยครับ แต่สำหรับ Galaxy A55 5G สายเกมเมอร์อาจต้องรออัปเดตเพิ่มเติมสักหน่อยครับ ด้วยชิปใหม่ อย่าง Exynos 1480 ที่มีการไปจับมือกับ AMD มาพัฒนาการ์ดจอร่วมกัน ทำให้ต้องมีการ Optimize กับเกมต่างๆ ด้วยครับ
 
ด้านแบตเตอรี่ที่ได้ทดสอบเปิด Youtube เป็นระยะเวลา 9 ชม. ที่ความระเอีลด 1080p เปิดเสียงลำโพงที่ 50 % ใช้แบตเตอรี่ไปประมาณ 60% ครับ

ส่วนด้านกล้องผู้เขียนมีทำพรีวิวไว้ให้แล้วครับ สามารถไปดูเพิ่มเติมกันได้เลยครับ
พรีวิว Samsung Galaxy A55 5G & Galaxy A35 5G   พรีวิว Samsung Galaxy A55 5G & Galaxy A35 5G
 
สำหรับราคา Samsung Galaxy A55 5G
ความจุ  8GB+128GB ราคา 13,999 บาท
ความจุ 12GB+256GB ราคา  บาท 15,999 บาท
 
เปิดตัวโปรแรง 2 ต่อ! สำหรับ Samsung Galaxy A55 5G
1. อัปแรมและความจุ 8GB+128GB เป็น 12GB+256GB (มูลค่า 2,000 บาท)
2. ลดพิเศษ 500 บาท จากราคา 13,999 เหลือ 13,499 บาท
วันที่ 11 มี.ค. 67 - 31 มี.ค. 67 ที่ Samsung Experience Store, samsuung.com และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
 
สำหรับราคา Samsung Galaxy A35 5G
ความจุ 8GB+128GB ราคา 11,999 บาท
 
สำหรับ Samsung finance+ : Galaxy A55 5G เริ่มเพียง 450 บาท / Galaxy A35 เริ่มเพียง 353 บาท


mobile expo 2024: ศึก Galaxy! พาเทียบ Galaxy A35 5G VS A55 5G เล่นเกมดีไหม? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobileexpo/

13
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





14
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

คุณประโยชน์
: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


15
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


หน้า: [1] 2












































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า